นครปฐม - จังหวัดนครปฐม จัดพิธีบรรพชาสามเณร และบวชศีลจาริณีนักเรียนโรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย เฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่บริเวณซุ้มพุทธมามกะ องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานมอบแก่สามเณร และมอบผ้าไตรแก่ศีลจาริณี ในพิธีบรรพชาสามเณร และบวชศีลจาริณี นักเรียนโรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558
อีกทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดี และความกตัญญูกตเวทีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่งเสริมให้นักเรียนได้ตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมประเพณีไทย และตั้งใจประพฤติปฏิบัติตนตามวิถีอันดีงามของศาสนา เพื่อพัฒนาชีวิตให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย และจิตใจ มีความเคารพ รัก และกตัญญูต่อผู้ให้กำเนิด ตลอดจนมีความรู้คู่คุณธรรม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
สำหรับพิธีบรรพชาสามเณร และบวชศีลจาริณีเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ มีนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งเป็นนักเรียนใหม่ จำนวน 194 คน บรรพชาสามเณร ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 5 เมษายน 2558 ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร และนักเรียนหญิง จำนวน 384 คน บวชศีลจาริณี ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายน 2558 ณ โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย โดยมี พระศรีวิสุทธิวงศ์ เจ้าคณะอำเภอบางเลน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์
ดร.จตุรงค์ อินทรรุ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย กล่าวว่า โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 36 พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช 2534 ได้รับพระกรุณาธิคุณด้วยการทรงรับโรงเรียนไว้ในพระราชูปถัมภ์ และเสด็จพระราชดำเนินมายังโรงเรียนถึง 4 ครั้ง ชาวสิรินธรราชวิทยาลัย ตระหนักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
จึงกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่านในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายนของทุกปี สำหรับในปีนี้มีความสำคัญพิเศษ เป็นปีมหามงคลที่พระองค์ท่านเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา โรงเรียนสิรินธร จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมตลอดปีแห่งการเฉลิมฉลอง
เช่น การจัดพิธีถวายราชสักการะ การลงนามถวายพระพรชัยมงคล การบรรพชาสามเณร และบวชศีลจาริณี การแสดงดนตรีไทยเฉลิมพระเกียรติ การจัดนิทรรศการทางวิชาการ ณ เมืองทองธานี การจัดแข่งขันแรลลี่การกุศล การจัดทำสายรัดข้อมือ และนอกจากนี้ ได้เชิญชวนชุมชนร่วมแต่งกายด้วยผ้าสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำวันเสาร์ วันพระราชสมภพอีกด้วย