อ่างทอง - คนร้ายบุกยิงหนุ่มใหญ่ 4 นัดซ้อนดับคาวงเบียร์ ตำรวจคาดเป็นคนใกล้ชิด เหตุมีปัญหาไม่ยอมช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าที่ค้างมา 4 เดือน พุ่งเป้าพี่เขยหลังหายตัวไป สั่งตำรวจล่าตัวมาสอบสวน
เมื่อเวลา 20.00 น.คืนวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.มานิตย์ นาคไพบูลย์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณบ้านเลขที่ 65/4 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์พยาบาลนิติเวชโรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมวีอาร์กู้ภัยจังหวัดอ่างทอง
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ข้างบนเป็นไม้ด้านล่างเป็นปูน บริเวณด้านล่างของบ้านข้างกรงสุนัขพบศพเป็นชายไม่สวมใส่เสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่บนพื้นดิน ห่างกันจากศพผู้ตายประมาณ 4 เมตร พบปลอกกระสุนขนาด 9 มิลลิเมตร ตกอยู่ จำนวน 4 ปลอก ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายสมบัติ หรือเอ๋ มิตรซื่อสัตย์ อายุ 42 ปี อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายบุญส่ง เฟื่องแดน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 ตำบลหนองคอนไทย อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เพื่อนผู้ตายอาชีพเป็นช่างวางท่อก๊าซ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับผู้ตายเพียงไม่นาน แต่เนื่องจากตนเป็นคนที่ชอบเลี้ยงสุนัขจึงได้เข้ามาดูสุนัขที่ผู้ตายเลี้ยงไว้ และได้ชวนกันนั่งดื่มเบียร์พูดคุยกับผู้ตาย ขณะที่ตนเดินไปปัสสาวะได้เห็นชายคนหนึ่งเข้ามาพูดคุยกับผู้ตาย จากนั้นก็ได้ยินสียงปืนดังขึ้น 4 นัด ตนจึงวิ่งหนี และพบ น.ส.หอย บุญดี อายุ 26 ปี ภรรยาของนายสมบัติ กลับมาก็พบว่า นายสมบัติ ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
น.ส.หอย ภรรยาผู้ตายเปิดเผยว่า ตนและสามีพักอยู่บ้านหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพี่สาวของนายสมบัติ ที่อาศัยอยู่ร่วมกับพี่เขย โดยทั้ง 2 คน พักอยู่ชั้นบน ส่วนตนและสามีอยู่ด้านล่าง เมื่อเช้าที่ผ่านมา ทางพี่เขยได้เดินมาบอกว่า สามีตนไม่ได้ช่วยจ่ายค่าไฟฟ้ามา 4 เดือนแล้ว โดยปกติตนและสามีจะช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าให้เดือนละ 1,000 บาท แต่มาระยะ 3-4 เดือนหลังไม่ได้จ่าย เนื่องจากไม่มีเงิน หลังจากขายลูกสุนัขไม่ได้ โดยสุนัขที่สามีเลี้ยงเอาไว้เพาะพันธุ์ขายเกิดแท้งลูกจึงไม่มีเงินนำไปจ่าย
ด้าน ร.ต.ท.มานิตย์ นาคไพบูลย์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง กล่าวว่า เบื้องต้นได้ติดตามตัวนายพยอม หรือช้าง ผลรุสะ อายุ 44 ปี พี่เขยที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกันซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เพราะผู้ตายกับพี่เขยไม่ค่อยถูกกันอยู่แล้ว ประกอบกับหลังจากเกิดเหตุก็ไม่พบนายพยอม สอบถามจากญาติก็ไม่ทราบว่าหายไปไหน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมพยานแวดล้อม และผู้เหตุเหตุการณ์ในการยิงกันครั้งนี้เพื่อนำคนก่อเหตุมาสอบสวน และดำเนินคดีคดีตามกฎหมาย พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาตัวนายพยอม เพื่อนำตัวมาสอบสวน และจะนำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงในการก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป