ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่เรียกทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมประเมินสถานการณ์เตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้ง หลังปริมาณน้ำในเขื่อนหลักเหลือน้อย และปริมาณน้ำฝนปีนี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30% ระบุยังมีน้ำเหลือพอจัดสรรดูแลนาข้าวปีนี้ แต่หลังจากนั้นขอความร่วมมือทำการเกษตรใช้น้ำน้อย เผยเตรียมจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำ ต้น พ.ย.58 นี้ ทำหน้าที่เกาะติดวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ และประกาศแจ้งเตือน เพื่อให้เกิดการใช้น้ำที่มีเหลืออยู่อย่างจำกัดอย่างเหมาะสม ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด
วันนี้ (14 ต.ค.) นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมประเมินสถานการณ์น้ำ และการเตรียมการลดผลกระทบจากภัยแล้ง ร่วมกับตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งชลประทาน เกษตรจังหวัด การประปาส่วนภูมิภาค และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมทั้งอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อน และอ่างกักเก็บของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนในปีนี้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 30% นอกจากนี้ ฝนที่ตกยังตกใต้เขื่อนอีกด้วย จึงส่งผลให้ปริมาณน้ำที่สามารถกักเก็บได้มีจำกัด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นที่ทำนาที่ได้ทำไปแล้วจนข้าวตั้งท้อง ยืนยันว่า ยังมีน้ำเพียงพอที่จะมีการจัดสรรให้จนข้าวโตเต็มที่ และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ แต่ในช่วงหลังจากนั้นเป็นต้นไปจะมีการขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดทำการเกษตรที่ต้องใช้น้ำมาก แล้วหันไปทำการเกษตรที่ใช้น้ำน้อยทดแทน เพื่อให้มีน้ำเหลือสำหรับการอุปโภคบริโภค
สำหรับสถานการณ์น้ำในช่วงต้นปี 2559 นั้น จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่า น่าจะอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ และมีปริมาณน้ำเหลือน้อย ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการวางแผนบริหารจัดการการใช้น้ำให้เหมาะสม ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่เตรียมที่จะทำการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำเป็นรายสัปดาห์ โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ออกประกาศแจ้งเตือน และให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะตั้งศูนย์ดังกล่าวอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้น คาดว่าน่าจะเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 58 เป็นต้นไป