ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชลประทานเชียงใหม่เผยปริมาณน้ำฝนยังน้อยไม่เพียงพอกระจายให้เกษตรกรได้ทั่วถึง ระบุเขื่อนแม่กวงยังไม่พ้นวิกฤต
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ สรุปภาพรวมของสถานการณ์น้ำในจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ว่าอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ เพราะจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกลงมาติดต่อกันทำให้มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งจังหวัดอยู่ที่ 240.25 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 53% ทำให้ไม่เพียงพอที่จะกระจายน้ำไปยังทุกพื้นที่ได้
และปริมาณน้ำท่าหรือน้ำที่ไหลผ่านในแม่น้ำปิงมีอยู่ทั้งหมด 114.3 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 84% สำหรับอัตราน้ำที่ไหลผ่านจากต้นน้ำที่ อ.เชียงดาว อยู่ที่ 0.82 ลบ.ม./วินาที และไหลผ่านกลางเมืองเชียงใหม่ 5.76 ลบ.ม./วินาที และไหลผ่านไปยังท้ายน้ำที่ อ.จอมทอง ประมาณ 6.2 ลบ.ม./วินาที
“สำหรับจังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่อยู่ทั้งหมด 12 ล้านไร่ โดยพื้นที่ทำการเกษตรมีอยู่ทั้งหมด 3.02 ล้านไร่ โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ชลประทาน 1.12 ล้านไร่ และพื้นที่การเกษตรโดยใช้น้ำฝน 1.90 ไร่ และขณะนี้ในพื้นที่ชลประทานมีเกษตรกรได้ทำการเพาะปลูกพืชไปแล้ว 28.25% ซึ่งได้มีการสำรองน้ำเพื่อให้เกษตรกรได้ทำการเพาะปลูกได้ตามปกติแล้ว”
นายเจนศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.แม่แตง มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 51.52 ล้าน ลบ.ม. และมีปริมาณน้ำที่ใช้ในการอุปโภคและบริโภคอยู่ 41.52 ล้าน ลบ.ม. แต่ปริมาณน้ำที่เข้ามายังเขื่อนมีเพียง 0.117 ล้าน ลบ.ม.
“น้ำในส่วนของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลขณะนี้ได้มีการปล่อยลงสู่แม่น้ำปิง ทุกวันศุกร์และเสาร์ โดยจะส่งน้ำในปริมาณ 1.7 ล้าน ลบ.ม. และสำหรับพื้นที่การเพาะปลูกในเขตชลประทานจำนวน 0.10 ล้านไร่ สามารถเพาะปลูกพืชได้แล้ว 95% ซึ่งทางเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีน้ำเพียงพอเพื่อให้เกษตรกรได้ทำการเพาะปลูก”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำในส่วนของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา นายเจนศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงค่อนข้างวิกฤต เพราะมีปริมาณน้ำที่เก็บกักประมาณ 32.64 ล้าน ลบ.ม.และมีน้ำที่สามารถใช้ในการอุปโภคและบริโภคได้เพียง 18.64 ล้าน ลบ.ม. และจำนวนน้ำที่เข้ามายังเขื่อนเพียง 0.176 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการแจกจ่ายน้ำไปยังอำเภอต่างๆ ที่จะใช้น้ำในการทำเกษตรกรรม
“ในพื้นที่ชลประทานขณะนี้อยู่ในภาวะที่บริหารจัดการน้ำได้ ยกเว้นในพื้นที่เขื่อนแม่กวงที่มีพื้นที่ประมาณ 150,000 ไร่ให้มีการชะลอการเพาะปลูก โดยมีแผนที่จะส่งน้ำในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการการจัดการชลประทาน (JMC) โดยได้มีการประชุมชี้แจงให้กลุ่มผู้ใช้น้ำเข้าใจสภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว”
นายเจนศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับน้ำที่ใช้ในส่วนการบริโภคและอุปโภคของจังหวัดเชียงใหม่ที่ขณะนี้มีการใช้น้ำดิบที่ผลิตเป็นน้ำประปาอยู่ที่วันละ 123,000 ลบ.ม. ก็ยังมีพอที่จะให้ชาวเชียงใหม่ได้ใช้น้ำประปากันอย่างปกติ แต่ก็ต้องใช้อย่างประหยัดมากขึ้น
