ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม 3 ต้นยืนต้นตายธรรมชาติ ในพื้นที่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ “สมเด็จพระสังฆราช” ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธี และแห่เก็บผงขี้เลื่อย เศษไม้ ข้าวตอกดอกไม้นำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต และครอบครัว
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่บริเวณมณฑลพิธี อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดร.ทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยปลัดจังหวัด นายชาตรี จันทรวีระชัย นายอำเภอกุยบุรี นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง และนายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ตลอดจนเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด พระโสภณคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมคณะสงฆ์ และคณะสงฆ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายคำรณ ปิ่นเงิน เจ้าหน้าที่พระราชพิธีโหรหลวง
ได้ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทร์หอม 3 ต้น ซึ่งยืนต้นตายธรรมชาติในพื้นที่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ในวันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2558 เวลา 16.30 น.
โดยพิธีเริ่มขึ้น ดร.ทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สรงน้ำ และเจิมที่ต้นจันทน์หอมต้นที่ 1 จากนั้นได้โปรยข้าวตอกดอกไม้ พร้อมด้วยตัวแทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หลังจากนั้น โหรหลวงลั่นฆ้อง เป่าสังข์ แกว่งบัณเฑาะว์ และจุดธูปหาง ปักที่เครื่องบวงสรวง เครื่องทองน้อยหน้าต้นจันทน์หอมตันที่ 1
จากนั้น นายคำรณ ปิ่นเงิน เจ้าหน้าที่พระราชพิธีโหรหลวงได้ประกอบพิธีอัญเชิญพระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระบรมมหาราชวัง อัญเชิญเทพยาดาฟ้าดิน เพื่อประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทร์หอม 3 ต้น พร้อมคณะสงฆ์ 8 รูปสวดมนต์อธิษฐานจิต และสวดชัยมงคลคาถาตลอดการกระทำพิธีตัดไม้จันทน์หอมแล้วเสร็จ พระสงฆ์อนุโมทนาสวดบทพรหมวิหาร และคาถากรวดน้ำพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ และหน่วยงาน ตลอดจนประชาชนได้ร่วมกันกรวดน้ำอุทิศแด่พระภูมิเจ้าที่เทพาอารักษ์ ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมพิธีตัวไม้จันทน์หอม
จากนั้น ดร.ทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ใช้ขวานฟันลำตันไม้จันทน์หอม และได้ใช้เลื่อยมือช่วยกันเลื่อยต้นจันทน์หอมทั้ง 3 ต้น จนล้มลง และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้ทำการตัดทอนเป็นท่อนละ 1 เมตร 50 ซม.และนายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง
ต่อจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ถวายไม้จันทน์หอมทั้ง 3 ต้น ให้แก่ พระโสภณคณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ตามที่ทางวัดบวรนิเวศวรวิหารได้ทำหนังสือขอรับบริจาคไม้จันทน์หอมจากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อนำไปดำเนินการจัดทำดอกไม้จันทน์ชนิดพิเศษ และเครื่องประกอบต่างๆ เพื่อใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ภายหลังเสร็จสิ้นการประกอบพิธีบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอมยืนต้นตายตามธรรมชาติทั้ง 3 ต้น เรียบร้อยแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ และประชาชน ฯลฯ รวมกันปลูกต้นไม้จันทน์หอมในพื้นที่บริเวณดังกล่าวจำนวน 102 ต้น เพื่อเป็นการทดแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการตัดไม้จันทน์หอมทั้ง 3 ต้น มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธี และประชาชนต่างกรูกันเข้ามาหยิบเศษไม้ และขี้เลื่อย ตลอดจนข้าวตอกดอกไม้เพื่อนำกลับไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าวว่า สำหรับการเคลื่อนย้ายไม้จันทน์หอมทั้ง 3 ต้นออกจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรีนั้นจะต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ดำเนินการแปรรูปจนเสร็จ และรายงานจำนวนไม้ที่แปรรูปให้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้รับทราบ และรายงานไปยังอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้รับทราบต่อไป จากนั้นจึงจะกำหนดวันเคลื่อนย้ายไม้จันทน์หอมไปยังสำนักช่าง 10 หมู่ ที่จังหวัดนครปฐมต่อไป
นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สำหรับไม้จันทน์หอมทั้ง 3 ต้น มีปริมาตรรวม 2.229 ลูกบาศก์เมตร คาดมีอายุกว่า 100 ปีขึ้นไป โดยต้นที่ 1 มีขนาดความยาว 10.0 เมตร ความโต 1.70 เมตร ต้นที่ 2 มีขนาดความยาว 12.0 เมตร ความโต 1.70 เมตร และต้นที่ 3 มีขนาดความยาว 12.0 เมตร ความโต 1.75 เมตร โดยไม้จันทน์หอมพบมากในพื้เนที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และบางส่วนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ด้าน นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี กล่าวว่า สำหรับไม้จันทน์หอมจัดเป็นไม้หายาก และมีค่า เพราะขึ้นอยู่ในภูมิภาคแถบนี้เท่านั้น เป็นไม้โตช้า แม้อายุ 100 ปี แต่ลำต้นไม่ใหญ่มากนัก คนโบราณจัดว่า ไม้จันทน์หอมเป็นไม้สูงจะนำมาสร้างบ้านเรือนสามัญชนไม่ได้ ต้องทำตำหนักเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน จัดเป็นไม้มีค่าเพราะมีกลิ่นหอมตลอดไม่ว่าจะเป็น หรือตาย หอมในทุกส่วนของลำต้น ไม่ว่าจะเป็นแก่น เปลือก กระพี้ เหตุเพราะไม้จันทน์หอมมีความหอมไม่ว่าจะเป็นหรือตาย จึงเปรียบเหมือนคนเมื่อเกิดมาทำความดี ตายแล้วก็ยังมีความดีอยู่ คนโบราณจึงนำไม้จันทน์หอมมาเผาศพ เรียกว่า “ดอกไม้จันทน์” จนถึงปัจจุบันนี้