ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - บรรยากาศเทศกาลกินเจในเชียงใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณข่วงประตูท่าแพมีการจัดงาน “Asian Vegetarian Fair 2015 ถวายแด่พ่อหลวง” 13-21 ตุลาคม มีการปรุงอาหารเจจาก 13 ประเทศในเอเชีย ประชาชนให้ความสนใจจนแน่นขนัด
ที่ลานข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิไท่หลินเทิดคุณธรรม เชียงใหม่ ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ และ ททท. จัดงาน “Asian Vegetarian Fair 20151 ถวายแด่พ่อหลวง” ระหว่างวันที่ 13-21 ตุลาคม 2558 โดยมีการปรุงอาหารเจจาก 13 ประเทศในเอเชียจำหน่ายระหว่างเวลา 10.00-14.00 น.
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวจีนสูงเป็นอันดับหนึ่งถึงประมาณ 4 แสนคนในปี 2557 และในปีนี้จึงถือโอกาสจัดเทศกาลกินเจให้ใหญ่ขึ้น และเป็นสากลมากขึ้น โดยการเชิญผู้นำด้านธรรมะสายธรรมฟาอีฉงเต๋อ จาก 13 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไต้หวัน, จีน, มาเก๊า, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, พม่า, ลาว, กัมพูชา, เนปาล และญี่ปุ่น เข้ามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย เพื่อหวังรองรับนักท่องเที่ยวจีนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น
นอกจากนี้ยังต้องการส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาร่วมรับประทานอาหารเจ เพราะนอกจากจะได้ประโยชน์ด้านสุขภาพแล้วยังเป็นการละเว้นชีวิตสัตว์ ทำความดีเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่พ่อหลวงของเราอีกด้วย
สำหรับอาหารเจที่นำมาจำหน่ายในงาน อย่างเช่น ผู้เข้าร่วมงานจากประเทศ “ญี่ปุ่น” เล่าว่า ได้นำอาหารที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่นมาจำหน่ายให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมงาน โดยได้นำทั้งซูชิที่เราได้ดัดแปลงโดยการใช้ผักมาแทนเนื้อสัตว์ และได้มีการประยุกต์วัตถุดิบโดยการใช้โปรตีนเกษตรแทนเนื้อสัตว์
ส่วนแกงกะหรี่ที่นำมาในวันนี้ก็ยังคงมีวัตถุดิบและรสชาติอย่างเดิมทุกอย่าง เพียงแต่การปรุงจะเปลี่ยนจากเนื้อสัตว์เป็นโปรตีนเกษตรเพื่อให้คงรสสัมผัสของคนที่ยังติดรสชาติของเนื้อสัตว์ก็สามารถรับประทานได้แล้วยังคงความอร่อยเช่นเดิม และอีกเมนูที่ถือว่าได้รับความนิยมเช่นกัน คือ บะหมี่โซบะ ที่เราได้ใช้แป้งทำโซบะสั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น แต่เราได้เปลี่ยนรูปแบบการกิน โดยปกติเราจะกินคู่กับน้ำซุปที่มีส่วนผสมของปลาแห้ง แต่เพื่อให้เข้ากับเทศกาลกินเจได้ใช้เห็ดหอมแทน โดยเราจะนำเห็ดหอมไปย่างไฟก่อนเพื่อให้ความหอมของเห็ดออกมาเยอะที่สุด และหลังจากนั้นเราจะนำไปต้มกับน้ำซุปผักเพื่อให้มีรสหวานของน้ำซุป และเมื่อกินพร้อมกับเส้นโซบะก็จะเข้ากันพอดี
ส่วนของบูทจาก “มาเก๊า” ได้นำโจ๊กที่ถือว่าเป็นต้นตำรับ โดยมีส่วนผสมจากข้าวถึง 3 ชนิด และมีส่วนผสมของเห็ดหอมที่ได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี และยังมีข้าวอบ 8 สหายที่ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยในข้าวอบ 8 สหายจะประกอบด้วย ข้าวกล้อง, เห็ดหอม, แปะก๊วย, ถั่วแดง และธัญพืชอื่นๆ อีกมากมาย
ส่วนบูทจากประเทศเวียดนามก็ได้นำเอาเกี๊ยวผักเจ ที่ถือว่าเป็นของกินเล่นอีกหนึ่งอย่างที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถกินได้ โดยไส้ของเกี๊ยวจะใช้ผักเป็นส่วนประกอบหลักและการแต่งรสชาติด้วยซีอิ๊วขาวเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังมีน้ำลำไยที่ถือว่าเป็นการนำวัตถุดิบของประเทศไทยมาใช้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยน้ำลำไยที่นี่จะแตกต่างจากที่อื่นโดยได้ใส่เมล็ดแมงลักเพิ่มเข้าไปเพื่อให้รสสัมผัสเวลากินและถือว่าเป็นการเพิ่มรสชาติให้น้ำลำไยอีกด้วย
บูทที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งคือ บูทจากประเทศฟิลิปปินส์ ที่การออกงานครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มาเข้าร่วมงานเทศกาลกินเจ โดยครั้งนี้ได้นำบาร์บีคิวเจ โดยเราได้เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์มาเป็นโปรตีนเกษตรแทน และนอกจากนี้ยังมีเนื้อตุ๋นสูตรพิเศษที่เราได้ดัดแปลงเพื่อมาร่วมงานในครั้งนี้ สำหรับเนื้อตุ๋นที่นำมาเป็นสูตรต้นตำรับจากประเทศฟิลิปปินส์และถือเป็นอาหารที่คนที่ไปเที่ยวที่ประเทศฟิลิปปินส์ต้องลองชิมทุกคน ซึ่งในครั้งนี้เราก็ได้นำมาร่วมในงานด้วย