อุดรธานี - ทนายความพาสาวพร้อมลูกน้อยอายุ 8 เดือนยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ขอให้หนุ่มอุดรฯ ผู้เป็นสามีถูกหวย 30 ล้านบาทรับรองบุตร เรียกค่าเลี้ยงดู 10 ล้านบาท หลังทำตัวออกห่างและบอกเลิก
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (13 ต.ค.) ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี นายธีระพล โภชนุกุล ทนายความได้พา น.ส.เสาวณี ทองวิเศษ พร้อมบุตรชายอายุ 8 เดือน เข้ายื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งให้นายธรรมรงค์ หรือยงยุทธ แก้วสวนจิก จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูและรับรองบุตรที่เกิดด้วยกันในจำนวนเงิน 10 ล้านบาท
น.ส.เสาวณีเปิดเผยว่า ที่ตนต้องออกมาเรียกร้องครั้งนี้ก็เพื่อหาความถูกต้องและเป็นธรรมให้แก่ลูกชาย ที่ก่อนหน้านี้ตนกับนายธรรมรงค์ หรือยงยุทธ ได้อยู่กินกันแบบสามีภรรยามาตั้งแต่ปี 2557 แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทำงานรับจ้างรายวันก็พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ต่อมาตนและนายยงยุทธได้เดินทางไปหางานทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ตนก็ไม่ได้ทำงานเพราะขณะนั้นตนตั้งท้องอยู่ ส่วนนายยงยุทธ สามีทำงานเป็นพนักงานโรงงานที่จังหวัดนครปฐม
จากนั้นตนได้เดินทางกลับมาบ้านเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้เพราะท้องแก่ ระหว่างนั้นสามีก็ส่งเงินกลับมาเลี้ยงดูตนตลอด พอตนคลอดลูกได้ 6 เดือนก็ได้เดินทางเข้าหางานที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง โดยได้ทำงานที่โรงงานผลิตปลั๊กไฟในจังหวัดนครปฐม โดยได้ฝากลูกไว้กับแม่ให้ช่วยเลี้ยง แต่ทำงานได้เพียง 2 เดือน นายยงยุทธก็ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 เป็นเงินรางวัล 30 ล้านบาท
ภายหลังได้เงินมาสามีได้บอกให้ตนกลับบ้านมาเลี้ยงลูกและบอกให้ซื้อที่ดินแถวทะเลบัวแดงไว้ เพื่อจะกลับมาทำรีสอร์ตเล็กๆ บริหารหารายได้สร้างครอบครัวร่วมกัน และให้ตนเปิดบัญชีไว้เพื่อจะโอนเงินมาให้ ตอนแรกนายยงยุทธก็โอนเงินมาให้ตนและแม่คนละ 5 แสนบาท และให้ฝากธนาคารให้ลูกชาย 2 แสนบาท จากนั้นก็ไม่ค่อยติดต่อกลับมา อ้างว่าต้องเก็บตัวเพื่อหนีผู้คนที่เข้ามาขอเงิน
ตอนแรกๆ ตนก็เข้าใจว่าคนที่มาหาส่วนมากจะมาขอเงิน ตนจึงบอกให้สามีหนีมาหลบซ่อนที่บ้านตน แต่สามีบอกว่าอยู่ไม่ได้ บ้านมันเก่าและเหม็น ตนก็แปลกใจแต่ก่อนทำไมอยู่ได้และทำไมถึงพูดดูถูกแบบนี้จึงทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราว และที่สะเทือนใจที่สุด คือ สามีบอกว่าเงินก็ได้ไปล้านกว่าบาทแล้วยังไม่พอใจอีกหรือ และในที่สุดก็บอกเลิกกับตน ตนจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาญาติพี่น้องซึ่งทางญาติก็บอกว่าเราควรจะเรียกร้องค่าเลี้ยงดูลูก
“ในที่สุดก็คงต้องขอพึ่งศาลเพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ดิฉันและลูกชายที่ยังเล็กอยู่ ไม่ได้ขออะไร ขอแค่ค่าเลี้ยงดู ซึ่งก็เป็นลูกของเขานั่นแหละ” น.ส.เสาวณีกล่าว