หนองคาย- ชาวบ้านพร้าว อ.เมืองหนองคาย ร้องท่าทรายปิดทางสาธารณะเข้าออกที่การเกษตร ทำชาวบ้านเดือดร้อนสัญจรไม่ได้ ขณะที่ท่าทราย ระบุ ไม่เคยห้ามแต่เกิดความเข้าใจผิดจากที่ดินติดกันทำรั้วที่ส่วนบุคคล ด้านนายอำเภอเตรียมเชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลตรวจสอบเส้นทาง หากพบเป็นทางสาธารณะทุกคนมีสิทธิใช้ร่วมกัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (12 ต.ค.) ได้มีชาวบ้านพร้าวเหนือ หมู่ 3 ต.กวนวัน อ.เมืองหนองคาย ประมาณ 30 คน มารวมกลุ่มกันบริเวณถนนริมตลิ่งแม่น้ำโขงท้ายหมู่บ้าน ใกล้กับท่าทรายเอซีอภิชัย ร้องเรียนความเดือดร้อนในการสัญจรไปยังพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งพบว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางการเกษตรของชาวบ้าน มีการนำท่อขนาดใหญ่ปิดกั้นเส้นทาง และมียางรถยนต์วางขวางไว้ด้วย
โดยมี นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย นายแสงธรรม หัสดี นายกเทศมนตรีตำบลกวนวัน นายพชร อุปฐานา นักวิชาการที่ดินชำนาญการ สนง.ที่ดิน จ.หนองคาย ร้อยเอกจำนง แสงกุดเรือ นายทหารยุทธการ กองกำลังรักษาความสงบ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ นรข. และตำรวจ สภ.เวียงคุก เข้ารับฟังความต้องการของชาวบ้าน รวมถึง นางกัญญณัฐ ชัยฤทธิ์ เจ้าของท่าทรายเอซีอภิชัย เลขที่ 146 หมู่ 3 ต.กวนวัน ก็เข้าพบด้วย
นายเศรษฐา โพนทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 3 ต.กวนวัน เป็นตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า เดิมนั้นท่าทรายแห่งนี้เป็นของอีกคนหนึ่งซึ่งชาวบ้านที่มีแปลงเกษตรอยู่ริมแม่น้ำโขงได้ใช้เส้นทางสายนี้เข้าพื้นที่การเกษตร และขนส่งสินค้าทางการเกษตรมาแล้วหลายสิบปี
แต่พอท่าทรายเอซี อภิชัย เข้ามาทำกิจการแทนกลับไม่อนุญาตให้ชาวบ้านสัญจรผ่าน และยังนำป้ายมาติดเป็นที่ดินส่วนบุคคล หากชาวบ้านใช้เส้นทางนี้ก็จะถูกต่อว่าอย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ต้องหาวิธีเข้าพื้นที่การเกษตรทางอื่นซึ่งลำบากกว่าเดิมมาก
จึงมารวมตัวกันร้องขอความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งการขอใช้เส้นทางสายเดิมนี้ รวมถึงการขอใช้เส้นทางริมตลิ่งแม่น้ำโขงซึ่งเป็นของกรมเจ้าท่าในการสัญจรไปมาด้วย
ด้าน นางกัญญณัฐ ชัยฤทธิ์ เจ้าของท่าทราย กล่าวว่า ตนทำกิจการท่าทรายมาเกือบ 10 ปี ทุกครั้งมีปัญหาร้องเรียนท่าทรายของตนตลอด โดยที่ตนไม่เคยห้ามชาวบ้านใช้เส้นทาง แต่เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าของที่ดินที่อยู่ติดกันได้มารังวัด และปักแนวรั้วคอนกรีต ทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าท่าทรายกันที่ดินไม่ให้ชาวบ้านผ่าน จึงไปร้องเรียนต่อเทศบาล
ส่วนแนวที่ดินที่ขึ้นป้ายที่ส่วนบุคคลนั้นเป็นเขตส่วนบุคคลจริง อยากชี้แจงให้ชาวบ้านทราบด้วยเช่นกัน
ขณะที่ นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้ที่ดินตรวจสอบก่อนว่าพื้นที่ดังกล่าวนี้ตามหลักฐานราชการเป็นเส้นทางสาธารณะจริงหรือไม่ และจะได้เชิญตัวแทนชาวบ้าน 10 คน มาให้ข้อมูลร่วมกับคณะกรรมการท่าทราย เทศบาลตำบลกวนวัน เจ้าของกิจการท่าทราย และเจ้าหน้าที่ที่ดิน
อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นที่สาธารณะทุกคนก็มีสิทธิใช้เส้นทางนี้ได้ ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และจะเชิญให้ข้อมูลในเร็วๆ นี้เพื่อยุติปัญหานี้โดยเร็ว