ลำปาง - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สนธิกำลังตำรวจ กอ.รมน.ลำปาง บุกตรวจป่าห้างฉัตร เจอแก๊งมอดไม้เหิมตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนเต็มตา ขณะขบวนการนอกกฎหมายเห็นรถ จนท.ผ่านพากันวิ่งหนีป่าราบ ทิ้งของกลางเกลื่อนทั้งไม้ซุงท่อน ไม้แปรรูป แถมอุปกรณ์ครบครัน พบต่อไฟเลื่อยไม้พร้อมสรรพ เชื่อตามจับได้แน่
นายสินธพ เรือนมั่น หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.37 (แม่ยาว) พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.ตำรวจสายที่ 1 ลำปาง ศปทส.ภ.5 สายที่ 2 ลำปาง เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง ช่วยกันตรวจยึดอุปกรณ์แปรรูปไม้ที่ตรวจพบที่บริเวณป่าละเมาะ ท้ายหมู่บ้านบ้านปงใต้ หมู่ 7 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เย็นวานนี้ (9 ต.ค.)
ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูงขนาด 3 เฟส 5 ตัว ใบเลื่อยวงเดือนขนาด 37 นิ้ว 1 ใบ ขนาด 32 นิ้ว 1 ใบ มูลเล่ย์ใช้ในการไสไม้ 2 ชุด และอุปกรณ์แปรรูปไม้อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งตรวจนับไม้เถื่อน ไม้กระยาเลยที่แปรรูปขนาดหน้า 1 นิ้ว กว้าง 2 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตร จำนวน 1,380 เหลี่ยม ไม้แปรรูปขนาด 1 นิ้ว กว้าง 2 นิ้ว อีก 100 เหลี่ยม ไม้ท่อนซึ่งเป็นไม้กระยาเลยที่อยู่ใน พ.ร.บ.คุ้มครอง ขนาด 1.50 เมตร อีกกว่า 50 ท่อน ก่อนนำไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.37 (แม่ยาว) พร้อมส่งบันทึกตรวจยึดจับกุมต่อพนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และสืบหาตัวกลุ่มมอดไม้กลุ่มนี้ต่อไป
การตรวจยึดไม้เถื่อนครั้งนี้มีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีการสร้างโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนแบบถาวรโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่จึงเฝ้าดูพฤติกรรม จนกระทั่งสบโอกาสจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ และขณะที่เจ้าหน้าที่ขับรถผ่านพบกลุ่มคนประมาณ 8-10 คนวิ่งแตกฮือออกไปคนละทิศละทาง
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพบว่า เป็นโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนขนาดใหญ่มีโครงสร้างที่ถาวรและแข็งแรง มีกองไม้ท่อน ไม้แปรรูปไว้จำนวนมาก อีกทั้งมีการต่อกระแสไฟฟ้ามาใช้ในการแปรรูปไม้ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะเรียกตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสินธพ เรือนมั่น หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ลป.37 (แม่ยาว) กล่าวเพิ่มเติมว่า คนในพื้นที่แห่งนี้มีอาชีพค้าขายไม้ แต่ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพแปรรูปไม้ที่ขอนุญาตถูกต้อง แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่ขอนุญาต และลักลอบนำไม้หวงห้ามมาแปรรูปจนสร้างความเสียหายแก่ผืนป่า จึงได้นำกำลังออกตรวจสอบ และพบการกระทำผิด ซึ่งคาดว่าน่าจะติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน เนื่องจากหลักฐานต่างๆ อยู่ในที่เกิดเหตุครบครัน