เชียงราย - ตัวแทนว้าแดงตอนใต้ติดต่อผ่านสื่อมวลชน ก่อนตั้งโต๊ะแถลงข่าวในท่าขี้เหล็ก ยัน “จะลอโบ” ผู้นำว้าชาวลาหู่ ไม่มีเอี่ยวยานรกล็อตใหญ่ ทั้งยาบ้า 2 ล้านเม็ด ไอซ์ 42 กก. เฮโรอีนอีก 46 กก. หลังตำรวจภาค 5 ทหาร ป.ป.ส. ยึดได้ 27 กันยายนที่ผ่านมา
วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคนที่อ้างตัวว่าเป็นสมาชิกกองกำลังว้า เขตปกครองพิเศษที่ 2 รัฐฉานของพม่า ติดต่อมายังสื่อมวลชน วานนี้ว่า ต้องการจัดตัวแทนแถลงข่าวเกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดในประเทศไทย
ต่อมาสื่อมวลชนในเชียงรายจำนวนหนึ่งได้เดินทางข้ามไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย และเข้าพบบุคคลที่ระบุว่าเป็นตัวแทนของกองกำลังว้าชื่อ “นายจะสอ” ลักษณะแต่งกายภูมิฐาน ที่นำไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อแถลงข่าว โดยมีการตั้งโต๊ะ และขึ้นป้ายขนาดใหญ่ระบุข้อความเป็นภาษาต่างประเทศ-ภาษาไทย ระบุเนื้อหาทำนองว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ทางการไทยจับกุมไปเมื่อเร็วๆ นี้ด้วย
นายจะสอ พร้อมคณะได้ชี้แจงถึงกรณีตำรวจภูธรภาค 5, ทหาร และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จับกุมยาเสพติดเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 5 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 42 กิโลกรัม เฮโรอีนจำนวน 36 กิโลกรัม พร้อมอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยมีการโยงไปถึงเครือข่ายกลุ่มผลิต และกองกำลัง พ.ท.จะลอโบ ผู้นำกองกำลังกลุ่มว้าที่เป็นชาวลาหู่ อีกคนหนึ่งในเขตปกครองพิเศษที่ 2 ของว้า
นายจะสอ และคณะระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่อาจจะมีคนที่มีชื่อใกล้เคียงกัน และยืนยันว่าที่ผ่านมากลุ่มลาหู่ดำรงชีพอยู่ด้วยการเกษตรและกสิกรรมต่างๆ เป็นหลัก
“กลุ่มลาหู่ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว เเละในพื้นที่ปกครองก็ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลพม่าในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยในชนเผ่าก็มีกฎระเบียบ เเละบทลงโทษร้ายเเรงสำหรับผู้ผลิต ผู้ค้า เเละผู้เสพด้วย” นายจะสอกล่าว
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ผู้แทนจากกองกำลังว้าออกมาแถลงเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในพื้นที่การปกครองของตน หลังจากก่อนหน้านี้เป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปว่าปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้าที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ขนเข้ามาทางชายแดนไทย-พม่า โดยหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยก็ทราบข้อมูลตรงกันว่ามาจากแหล่งผลิตเขตรัฐฉานนั่นเอง และที่ผ่านมายังเคยมีกองกำลังชนเผ่าต่างๆ ซึ่งบางครั้งมีชาวว้า และลาหู่ ปะทะกับเจ้าหน้าที่ชายแดนของไทย จนเกิดการสูญเสีย ยึดของกลางยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย