ศูนย์ข่าวศรีราชา - “ไทยออยล์” เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ครั้งที่ 2 ต่อร่างรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ (ส่วนขยายครั้งที่ 5) ด้านชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่ยังวิตกกังวลเรื่องผลกระทบระหว่างดำเนินการ
วันนี้ (30 ก.ย.) นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ ประธานที่ปรึกษาคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง พร้อมด้วย นายวิโรจน์ มีนะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านกำกับกิจการองค์กร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลกระทบร่างรายงานวิเคาระห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโรงกลั่นน้ำมันไทออยล์ (ส่วนขยายครั้งที่ 5)
นายวิโรจน์ กล่าวว่า บริษัทกำหนดนโยบาย และเป้าหมายการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นความสมดุลทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักธรรมภิบาล และตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มด้วยความเป็นธรรมมาโดยตลอด และในครั้งนี้บริษัทได้พัฒนาโครงการโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ส่วนขยายครั้งที่ 5 หรือเรียกสั้นๆ ว่า โครงการพลังงานสะอาดขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก และนำมาซึ่งความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ
โดยโครงการนี้จะทำให้ไทยออยล์เป็นโรงกลั่นที่ผลิตเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน โดยการปรับปรุงกระบวนการผลิตซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง เพื่อตอบสนองนโยบายการประหยัดพลังงานของประเทศ รวมถึงหยุดการผลิตหน่วยกลั่นน้ำมันดิบเก่าซึ่งมีประสิทธิภาพต่ำ
โดยในการดำเนินการพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทได้ให้ความสำคัญต่อชุมชน และสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA พร้อมทั้งได้จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียเพื่อรับฟังข้อคิดเห็น ข้อห่วงกังวล ข้อเสนอแนะของประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการจัดการเปิดเวทีรับความคิดเห็นของโครงการได้ ดำเนินการไปแล้วครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 และวันนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้มีการเปิดเวทีเพื่อให้ประชาชนโดยรอบโรงกลั่นได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และสอบถามในเรื่องที่ยังข้องใจอยู่
โดยคณะผู้ศึกษาจะได้นำความคิดเห็นมาพิจารณาปรับปรุงรายงานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และจะได้นำส่งสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการพิจารณาเห็นชอบรายงาน EIA ตามขั้นตอนต่อไป สำหรับโครงการโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ (ส่วนขยายครั้งที่ 5) จะเพิ่มกำลังการกลั่นของบริษัทจากเดิม 280,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 450,000 บาร์เรลต่อวัน
ด้านประชาชนในพื้นที่รอบโรงกลั่นซึ่งมาร่วมรับฟังกว่า 500 คน ส่วนใหญ่ไม่ได้ต่อต้าน แต่มีข้อห่วงกังวลในเรื่องของผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่ขอให้ทางโรงกลั่นใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระหว่างการดำเนินโครงการ หรือหลังจากโครงการเสร็จแล้ว จะต้องมาดูในเรื่องของกระบวนการผลิต ระบบการขนส่งสารเคมี รวมไปถึงคนงานก่อสร้างที่เข้ามาทำงานเรื่องสุขลักษณะในแคมป์คนงาน เพราะอาจแหล่งแพร่เชื้อโรคได้หากไม่มีการจัดการที่ดี และขอให้มีการพิจารณาบุคคลากรภายในชุมชนที่มีความรู้ความสามารถให้มีโอกาสได้เข้าไปทำงานในโรงกลั่น ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ชุมชน และโรงกลั่น