สุรินทร์ - วอนช่วย! “น้องออฟ” หนุ่มสุรินทร์สูงที่สุดในโลกพุ่ง 269 ซม. ลุกเดินเหินไม่ได้ต้องนอนบนเตียงยักษ์ตลอดเวลา อาศัยอยู่กับพ่อแม่ชราฐานะยากจน อีกทั้งสารพัดโรครุมเร้าสมาชิกทั้งครอบครัว และแบกภาระหนี้สินนับแสนบาท
วันนี้ (28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ได้เดินทางไปเยี่ยม นายพรชัย หรือ “น้องออฟ” เสาศรี อายุ 26 ปี ชายไทยที่สูงที่สุดในโลก 257 เซนติเมตร (ซม.) อาศัยอยู่กับ นายสราน และ นางเวิน เสาศรี พ่อและแม่ ที่มีอายุมากแล้ว และ ด.ญ.กัลญา เสาศรี หลานสาว อายุ 15 ปี ที่บ้านเลขที่ 71/1 บ้านตาแก้ว ม.3 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เพื่อสอบถามอาการป่วยหลัง “น้องออฟ” เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา
พบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคามุงสังกะสี สภาพก่อสร้างยังไม่เสร็จ ภายในบ้านได้พบ นายพรชัย เสาศรี หรือน้องออฟ นอนอยู่บนเตียงเหล็กขนาดใหญ่พิเศษ มีขนาดความยาว 4.5 เมตร กว้างกว่า 2 เมตร น้องออฟ มีสภาพร่างกายทรุดโทรม และซูบผอมลงไปมาก ไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้ ข้างกายมีนางเวิน เสาศรี ผู้เป็นแม่ และ ด.ญ.กัลญา เสาศรี อายุ 15 ปี หลานสาวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด คอยหายา อาหาร น้ำดื่มมาให้ และนำกระโถนมาช่วยเหลือในการขับถ่ายบนเตียงยักษ์ที่กำลังใกล้พัง
น้องออฟกล่าวว่า ตนอยากได้เตียงแบบที่สามารถกดปุ่มปรับขยับขึ้นลงได้เหมือนในโรงพยาบาล และอยากได้เงินมาช่วยใช้หนี้สินให้แม่ที่แก่มากแล้ว
นางเวิน เสาศรี อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า มีลูกเพียง 2 คน คือ แม่ของ ด.ญ.กัลญา เสาศรี และน้องออฟ เป็นคนสุดท้องที่ป่วยเป็นโรคฮอร์โมนใต้สมองผิดปกติ ทำให้ร่างกายเติบโตผิดปกติ โดยตัวโตขึ้นและสูงไม่หยุด ซึ่งเริ่มเป็นมาแต่อายุ 16-17 ปี ทั้งที่เมื่อก่อนร่างกายปกติธรรมดาเหมือนกับเด็กทั่วไป
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมาได้พาน้องออฟไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพฯ เพื่อตรวจร่างกายตามนัด โดยแพทย์ระบุว่านายพรชัยน้ำหนักลดลงจากเดิม 225 กิโลกรัม (กก.) เหลือ 153 กก. ลดไป 72 กก. แต่ส่วนเพิ่มขึ้น 12 ซม. จากเดิมสูง 257 ซม. ปัจจุบันสูงขึ้น 269 ซม. หลังจากเข้ารับการรักษา 1 ปีเศษ อย่างไรก็ตาม น้องออฟยังเดินเหินไม่ได้ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา
นางเวินกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และหน่วยแพทย์ พอ.สว. รับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตอนนี้จึงอยากวอนให้สังคมช่วยเหลือเรื่องเตียงเหล็กขนาดใหญ่ของน้องออฟที่ใกล้พัง และนอนได้เพียงท่าเดียวขยับเขยื้อนไม่ได้ ตนอยากได้เตียงไฟฟ้าที่ปรับขึ้นลงได้เหมือนในโรงพยาบาลก็ไม่มีปัญญาซื้อให้ลูก ทุกวันนี้โชคดีที่มูลนิธิ พอ.สว.ช่วยค่าใช่จ่ายเป็นค่าเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพฯ ครั้งละ 1,600-1,800 บาท พอเฉพาะค่าเดินทางไป-กลับ กลับมาก็ต้องเลี้ยงลูกตามยถากรรมเหมือนเดิม
ปัจจุบันตนและสามีมีอาชีพทำนาพื้นที่ 8 ไร่ และเลี้ยงควาย 4 ตัว เพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัว และรักษาน้องออฟ รวมทั้งหลานสาว ด.ญ.กัลญา เสาศรี ที่ป่วยเป็นโรคเส้นประสาทตาเสื่อม ซึ่งปัจจุบันตาบอดสนิทไปหนึ่งข้างแล้ว และตนก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ส่วนสามีถูกสารพิษจากยาฆ่าแมลงขณะเกี่ยวหญ้าต้องผ่าตัดแขนข้างขวา ปัจจุบันอาการยังไม่หายดี อีกทั้งขณะนี้ยังมีหนี้สินอีกนับแสนบาท
จึงอยากวิงวอนขอความเมตตาผู้ใจบุญช่วยเหลือ และสังคมได้ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระบ้าง