หาม “ผอ.ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ฯ” กาญจน์เข้า รพ.กินยาเกินขนาดหลังเครียดถูก นร.ขับไล่

กาญจนบุรี - ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เตรียมตั้ง คกก.สอบสวนกรณีนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 อำเภอพนมทวน ประท้วงขับไล่ “ผอ.โรงเรียน” ขณะที่รอง ผอ.โรงเรียนเผย “ผอ.” เครียดหนักถึงกับกินยาเกินขนาด ต้องหามตัวรักษาตัวที่ รพ.ธนกาญจน์ ด้าน ผอ.รพ.ธนกาญจน์ เผยคนไข้กินยาแก้ปวดหลังเกินขนาด ล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังมีอาการเครียดให้เห็น คาด 1-2 วันกลับบ้านได้

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ร่วม 1,000 คน ประท้วงขอให้กระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งย้าย นางวริศรา วงค์มุสิก ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการนักเรียน จำนวน 16 คน ออกจากพื้นที่ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.58 ที่ผ่านมา ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอพนมทวน

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (24 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 ขอเข้าพบ นางประสิทธิ์พร สืบสุข รองผู้อำนวยการโรงเรียนฝ่ายวิชาการและกิจการโรงเรียน เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้ากรณี น.ส.ดวงใจ ศรีสม อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6/2 นายอกัณห์ หลอยกระ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6/1 และ น.ส.กุลธิดา นัยนิตย์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6/1 แกนนำประท้วงขับไล่ นางวริศรา วงค์มุสิก ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการนักเรียนจำนวนหนึ่ง ไปถึง นางประสิทธิ์พร สืบสุข ได้เปิดห้องผู้อำนวยการ อาคาร 3 เพื่อให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าว พร้อมเชิญตัวแกนนำนักเรียนทั้ง 3 ราย มาพบด้วย

นางประสิทธิ์พร สืบสุข รองผู้อำนวยการโรงเรียนฝ่ายวิชาการและกิจการโรงเรียน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ยอมรับว่าไม่มีใครทราบล่วงหน้ามาก่อนเลย เพราะตลอดทั้งวันเด็กยังคงเรียนหนังสืออยู่ตามปกติ จนกระทั่งช่วงบ่าย สังเกตพบว่าในโรงเรียนเงียบผิดปกติ และมีนักเรียนอยู่น้อยมาก จนมาทราบอีกทีว่า นักเรียนได้ไปรวมตัวประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการที่ที่ว่าการอำเภอพนมทวน จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. นักเรียนทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับหอพักภายในโรงเรียน โดยมีท่านนายอำเภอพนมทวน เดินทางไปส่งเด็กนักเรียนถึงที่พัก

จนมาวันนี้ (24 ก.ย.) ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็มีเด็กนักเรียนมาเรียนหนังสือตามปกติ จำนวน 649 คนจากจำนวน 997 คน ที่เหลือทางผู้ปกครองเดินทางมารับกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานหลังเกิดเหตุ โดยทางโรงเรียนจะได้ประสานให้ผู้ปกครองนำเด็กนักเรียนกลับมาเรียนหนังสือตามเดิม เพราะในวันที่ 28-30 ก.ย.นี้ จะต้องมีการสอบ และวันที่ 1 ต.ค.ก็จะปิดเทอมแล้ว ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นคาดว่าทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงคงจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับ นางวริศรา วงค์มุสิก ผู้อำนวยการโรงเรียน ขณะนี้ทราบว่าไม่สบายนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธนกาญจน์ ส่วนสาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่าคงเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวท่าน จึงรับประทานยาจนเกินขนาด ซึ่งช่วงเวลาประมาณ 07.00-08.00 น.ทราบว่า มีอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เกษียณอายุราชการไปแล้วได้เดินทางไปเยี่ยมนางวริศรา ที่บ้านพักในตัวเมืองกาญจนบุรี และก็พบว่า ประตูบ้านไม่ได้ล็อก แต่ตะโกนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินเข้าไปภายในบ้านจึงพบจากนั้นจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ทราบว่าขณะนี้ นางวริศรา อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนยาที่กินเข้าไปนั้นตนไม่ทราบ คาดว่าคงจะเป็นยาที่ท่านใช้กินเพื่อรักษาโรคประจำตัวของท่านก็เป็นได้

ด้าน น.ส.ดวงใจ พร้อมนายอกัณห์ และ น.ส.กุลธิดา แกนนำนักเรียน กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่พวกเรายื่นเสนอไปทั้ง 2 ประเด็นได้มอบให้แก่คณะกรรมการกลางไปแล้ว และหากมีการย้ายผู้อำนวยการจริง เรานักเรียนทุกคนขอให้ผู้อำนวยการคนใหม่เป็นคนที่คอยเอาใจใส่ดูแลเด็กนักเรียนมากขึ้น และหลังจากนี้ไปพวกเราจะเข้าไปคุยกับน้องๆ ที่อยู่โรงเรียนมาช่วยกันปรับปรุงให้โรงเรียนดีขึ้นกว่าเดิม สำหรับเรื่องที่ ผอ.นริศรา รักษาตัวอยู่ที่โรพงพยาบาลเพราะกินยาเกินขนาดจากความเครียดนั้น พวกตนไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน

ด้าน นายสถาพร วิสามารถ ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญโรงเรียนสุพรรณบุรีปัญญานุกูล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้นำเรื่องที่เด็กนักเรียนร้องเรียนมา 2 ประเด็นเข้าพบ นายอำนาจ วิชยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ซึ่งอีกประมาณ 2-3 วันท่านก็คงจะแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน และหากข้อร้องเรียนมีมูลก็คงจะตั้งคณะกรรมการเข้ามาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง

ส่วน นายแพทย์สหเทพ สว่างเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนกาญจน์ เปิดเผยว่า ยาที่นางวริศรา วงค์มุสิก ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 รับประทานเข้าไปเป็นยาประเภทแก้ปวดหลัง ซึ่งเมื่อผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลทางคณะแพทย์ และพยาบาลได้ทำการล้างท้องให้ ซึ่งยาประเภทนี้ไม่มีฤทธิ์ตกค้าง อาการล่าสุดปลอดภัยแล้ว จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ได้รับประทานเข้าไปนับสิบเม็ด

สำหรับสาเหตุที่ผู้ป่วยรับประทานยาเกินขนาด ทางแพทย์ไม่ได้สอบถามในรายละเอียดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้เฝ้าดูอาการอยู่ เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ คือ ร้องไห้ตลอดเวลา แต่อาการป่วยจากการรับประทานยาเกินขนาดไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด คาดว่าประมาณ 1-2 วัน คณะแพทย์น่าจะอนุญาตกลับบ้านได้