อุบลราชธานี - สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี เตือนเกษตรกร และผู้ที่ต้องสัมผัสน้ำเป็นเวลานานให้สวมรองเท้าบูต เพราะปีนี้พบคนป่วยตายจากโรคฉี่หนูแล้ว 3 ราย ป่วยเกือบ 300 คน โดยศรีสะเกษ ครองแชมป์ป่วย และตายสูงสุดของภาค แนะมีอาการไข้เฉียบพลัน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามน่อง ขา รีบพบแพทย์ก่อนเสียชีวิต
นายแพทย์ศรายุธ อุตตมางคพงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงสถานการณ์โรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซีส ในพื้นที่ 7 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึง 18 ก.ย.ศกนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน ที่จังหวัดศรีสะเกษ 2 ราย ยโสธร 1 ราย มีผู้ป่วยเกือบ 300 คน
โดยมีผู้ป่วยมากที่สุดคือ จ.ศรีสะเกษ 141 คน รองลงมาเป็น อุบลราชธานี 101 คน ยโสธร 29 คน อำนาจเจริญ 13 คน สกลนคร 2 นครพนม 1 ส่วนมุกดาหารยังไม่พบผู้ป่วย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 35-54 ปี
สำหรับสาเหตุการติดเชื้อเนื่องจากประชาชนมีอาชีพทำไร่ทำนา รับจ้างขุดลอกคลอง หรือเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ ทำให้มีโอกาสสัมผัสน้ำที่หนู สุนัข แมว โค แพะ แกะ ฉี่ไว้ และเชื้อได้เข้าสู่ร่างกายตามรอยแผล รอยถลอกของผิวหนัง หรือการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคนี้ปนเปื้อนอยู่
นายแพทย์ศรายุธ กล่าวต่อว่า อาการเริ่มแรกของโรคคือ ผู้ป่วยจะมีไข้เฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะหลัง ต้นขา น่อง ปวดศีรษะ ตาแดง คลื่นไส้ และปวดท้องให้รีบไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะสามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ หรือซื้อยากินเองอาจทำให้เชื้อลุกลามกระจายไปยังอวัยวะต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต
ส่วนการป้องกันโรค หากต้องเดินย่ำน้ำ หรือแช่น้ำเป็นเวลานานต้องสวมรองเท้าบูต เมื่อขึ้นจากน้ำให้รีบล้างมือ ล้างเท้าด้วยสบู่ให้สะอาด ส่วนผู้ที่มีบาดแผลอยู่ตามเท้า หรือร่างกายควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันทีเพื่อไม่ให้ติดเชื้อโรคนี้
สำหรับพื้นที่ใดเคยมีการระบาด หรือมีผู้ป่วยต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรศัพท์สายตรงได้ที่สายด่วนควบคุมโรคโทรศัพท์หมายเลข 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
