อุบลราชธานี - ทหารกองกำลังสุรนารีมอบ 8 ผู้ต้องหาปิดล้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ซ้ำชิงตัวผู้ต้องหาให้ตำรวจไปดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก พร้อมเร่งไล่ล่าติดตามเพื่อนร่วมก๊วนอีก 33 คนมาดำเนินคดีเพิ่ม โดยทั้งหมดเป็นแก๊งตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนส่งไปขายให้นายทุนชาวลาว
วันนี้ (17 ก.ย.) ที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี พล.ต.ต.ธวัชชัย นิลานุช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองเสนาธิการกองกำลังสุรนารี หัวหน้าชุดติดตามจับกุมแก๊งตัดไม้พะยูงที่ปิดล้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชิงตัวผู้ต้องหาเมื่อกลางคืนวันที่ 10 ก.ย. ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการติดตามจับกุมกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงหลังเกิดเหตุการณ์จนถึงวันที่ 15 ก.ย.สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ถูกชิงตัวไปทั้ง 7 คนกลับมาได้ พร้อมกับจับตัวนายบุญมา ศรีบุปผา หรือผู้ใหญ่แป๋ง อดีตผู้ใหญ่บ้านคำบาก ต.ห้วยข่า ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มตัดไม้ในพื้นที่
หลังสอบสวนปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า วันดังกล่าวนายบุญมาได้คุมคนขึ้นไปตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในเขต ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จำนวน 5 กลุ่ม และลำเลียงไม้ที่ตัดส่งข้ามเข้าไปขายให้นายลม และนายหำ ซึ่งเป็นนายทุนทำไม้ชาวลาวผ่านช่องหินหักไปยังบ้านหนองงา เมืองมูนละป่าโมก แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ได้จำนวนหนึ่ง
ส่วนกลุ่มของนายอภินันท์ ศรีโคตร พร้อมพวกอีก 6 คน ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้สกัดจับไว้ได้พร้อมไม้พะยูง 25 ท่อน หลังจากนั้นนายบุญมาจึงเข้ามาติดต่อติดสินบนให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาและไม้พะยูงของกลาง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม จึงเกิดการกดดันให้ปล่อยตัวและมีกลุ่มตัดไม้ที่ส่งไม้ไปขายยังประเทศลาว เดินทางกลับมายังช่องหินหักร่วมล้อมเจ้าหน้าที่กดดันเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30 คน
กระทั่งเกือบรุ่งสางเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกำลังน้อยกว่าได้ยอมปล่อยตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไป ซึ่งขณะนี้นอกจากผู้ต้องหาทั้ง 8 คนแล้ว เจ้าหน้าที่มีรายชื่อจะติดตามจับกุมอีก 33 คน โดยขณะนี้ได้มีการยึดเงินสดที่ได้จากการใช้กระทำความผิด 16,000 บาท สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ 11 บัญชี เพื่อทำการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
หลังการแถลงข่าวทหารกองกำลังสุรนารีได้มอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คนที่ถูกควบคุมตัวภายใต้กฎอัยการศึกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยข่า รับตัวไปดำเนินคดีข้อหาหลบหนีการจับกุมและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตัดและทำไม้หวงห้ามไม้พะยูงในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตในวันเดียวกัน