อุบลราชธานี-รอง ผบ.ตร.ร่วมยุทธการกวาดล้างขบวนการตัดไม้พะยูง หลังเหิมปิดล้อม จนท.ชิงตัวผู้ต้องหา เผยจับตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีไปกลับมาได้ครบทั้ง 7 คน และจับอดีตผู้ใหญ่บ้านแกนนำพวกพวกชิงตัวได้เพิ่มอีก 1 คน ส่วนการกวาดล้างได้เลื่อยโซ่ยนต์ใช้ตัดไม้ ไม้พะยูง ปืนยาวไทยประดิษฐ์ ยาบ้า รถยนต์ จักรยานยนต์ใช้ทำผิดจำนวนมาก
วันนี้ (15 ก.ย.) ที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.อ.ชูชาติ อุปสาน รอง เสธนาธิการกองกำลังรักษารักษาความสงบประจำจังหวัด นายเศรษฐการย์ ทิพย์สุวรรณ ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี แถลงผลการกวาดล้างขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยซึ่งมีพื้นที่กว่า 4 แสนไร่ กินพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี
โดยใช้กำลังทหาร ตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครองกว่า 200 คน เข้าตรวจค้นพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมาย 20 จุดใน 3 อำเภอ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เพื่อปราบปรามและทำความเข้าใจกับชาวบ้านห้ามไม่ให้ขึ้นไปหาของป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย หลังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชประกาศปิดพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาชาวบ้านขึ้นไปลักลอบตัดไม้พะยูงเมื่อวันที่ 14 ก.ย.
ผลการตรวจค้นสามารถยึดของกลางเป็นเลื่อยโซ่ยนต์ 7 เครื่อง รถยนต์ 3 คัน จักรยานยนต์ 37 คัน ปืนแก๊ปยาวไทยประดิษฐ์ 11 กระบอก ยาบ้า 36 เม็ด ไม้พะยูง 74 ท่อน ไม้ประดู่ 5 ท่อน วิทยุสื่อสารใช้ติดต่อ 2 เครื่อง จับกุมผู้ต้องหาครอบครองไม้พะยูงและประดู่หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต มีเลื่อยโซ่ยนต์โดยผิดกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) มีเครื่องมือสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 11 ราย
ด้านการติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการชิงตัวผู้ต้องหาลักลอบตัดไม้พะยูงเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้สามารถจับตัวนายสุทธิพงษ์ สายทอง ซึ่งหลบหนีการจับกุมหลังถูกชิงตัวกลับมาได้แล้ว พร้อมกับจับแกนนำที่พาพวกบุกชิงตัวได้อีก 1 คน คือ นายบุญมา ศรีบุปผา หรือผู้ใหญ่แป๋ง อดีตผู้ใหญ่บ้านคำบาก ต.ห้วยข่า โดยขณะนี้ทหารนำตัวไปควบคุมไว้สอบสวนขยายผลถึงคนอื่นที่เหลือ
ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาวเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จะร่วมกันเฝ้าติดตามคนที่อยู่ในขบวนการลักลอบตัดไม้ซึ่งเจ้าหน้าที่มีรายชื่ออยู่แล้ว โดยเข้าทำความเข้าใจให้เปลี่ยนอาชีพใหม่ และหากทำผิดอีกก็จะตั้งข้อหาสถานหนัก เพื่อให้เลิกทำอาชีพตัดไม้ต่อไปในอนาคตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ป่าสงวนใกล้เคียง จะใช้เส้นทางผ่านบ้านคำบาก บ้านหนองแปน ต.ห้วยข่า เพื่อขึ้นไปตัดไม้บนภูหินด่าง และช่องหินหักซึ่งเป็นพรมแดนไทย-ลาว หลังตัดไม้ขบวนการจะขนลงไปทางบ้านเหียง บ้านหนองงา เมืองมน และเมืองสุขุมา แขวงจำปาสัก ประเทศลาว โดยมีนายทุนทำไม้ชาวลาวจะมารอรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท ตามลักษณะของไม้ กลุ่มลักลอบบางรายจะไม่รับเงิน แต่ขอเปลี่ยนเป็นยาเสพติด (ยาบ้า) เพื่อนำมาจำหน่ายทำกำไรในฝั่งไทย ส่วนที่รับเป็นเงินสดนั้นนายทุนลาวจะไม่จ่ายให้ทันที แต่จะนัดให้กลุ่มตัดไม้มารับเงินที่ช่องตาอู นจุดผ่อนปรนใช้ค้าขายระหว่างราษฎรลาวและไทยในวันต่อๆ มาแทน
