อุบลราชธานี - สั่งปิดอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยไม่มีกำหนด หวังแก้ปัญหาลักลอบตัดไม้พะยูง หลังแก๊งมอดไม้เหิมปิดล้อมชิงตัวผู้ต้องหา เบื้องต้นทหารตามจับได้แล้ว 6 จาก 7 คน ด้านรอง ผบ.ตร.สั่งสนธิกำลังทุกฝ่ายวางกำลังสกัดกั้นเส้นทางเข้าทำไม้และเส้นทางลำเลียงออกประเทศเพื่อนบ้าน
สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 ก.ย. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประจำอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี จับกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนไทย-ลาว บริเวณบ้านคำบาก ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก 7 คน พร้อมไม้พะยูงของกลาง 25 ท่อน ปริมาตร 0.80 ลูกบาศก์เมตร รถจักรยานยนต์ 6 คัน รถเข็นสองล้อดัดแปลง 7 คัน บริเวณป่าลำห้วยเมยเฒ่า หรือช่องหินหัก ตั้งอยู่ทิศตะวันออก บ้านคำบาก หมู่ 6 ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี
ปรากฏรุ่งเช้าวันที่ 11 ก.ย. ขณะคุมตัวผู้ต้องหาลงจากเขาเพื่อส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยข่า ดำเนินคดีตามกฎหมาย มีกลุ่มลักลอบตัดไม้ที่หลบหนีไปได้ช่วงแรก ได้ชักชวนพรรคพวกเกือบ 100 คน เข้าปิดล้อมชิงตัวผู้ต้องหาและของกลาง ทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่มีกำลังเพียง 5 นายต้องยอมปล่อยตัวผู้ต้องหาและของกลางตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (13 ก.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ดูแลงานด้านความมั่นคง พล.ต.ต.ธวัชชัย นิลานุช ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี นายประวัติ ทานะมัย ผอ.ฝ่ายอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อรายงานผลการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกชิงตัวไป
โดยทหารกองกำลังสุรนารีสามารถจับกลับคืนมาได้แล้ว 6 คน จาก 7 คน โดยคนที่หลบหนีไปได้ คือ นายสุทธิพงษ์ สายทอง อายุ 32 ปี ชาวบ้านบ้านโพนแพง ต.ห้วยยาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ทหารคุมตัวไปสอบสวนในพื้นที่ความมั่นคงของทหารตามกฎอัยการศึก แล้วจะส่งมาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย นิลานุช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวภายหลังการประชุมว่า พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติขอให้อธิบดีกรมป่าไม้ออกประกาศปิดเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอยเพื่อป้องกันขบวนการลักลอบตัดไม้ขึ้นไปทำไม้ พร้อมมีการวางกำลังทหาร ตำรวจ ป่าไม้ และปกครองสกัดกั้นจุดช่องทางขึ้นไปตัดไม้และช่องทางที่จะลำเลียงไม้ข้ามภูเขาส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน
โดยจะเริ่มปิดประกาศตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. และยังไม่มีระยะเปิดที่แน่นอน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง สามารถใช้กฎหมายกับชาวบ้านที่อ้างว่าขึ้นไปหาของป่าแต่ความจริงลักลอบไปตัดไม้ได้ทันที โดยไม่ต้องให้เกิดการกระทำผิดก่อน ส่วนการขยายผลจะสอบสวนปากคำเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่ามีชาวบ้านคนใดที่ร่วมขบวนการเข้ามาชิงตัวผู้ต้องหาจะออกหมายจับมาดำเนินคดีทุกคน ส่วนจำนวนเท่าใดยังไม่แน่ชัด เพราะขณะเกิดเหตุเป็นช่วงกลางคืน แต่ไม่น่าจะเกิน 50 คน
สำหรับรายชื่อผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นายอภินันท์ ศรีโคตร อายุ 29 ปี นายวรพิศ วิเศษศิลป์ อายุ 41 ปี นายคำสิงห์ เรืองศรี อายุ 35 ปี นายมนต์รัก พรหมลี อายุ 31 ปี นายเสถียร บัวใหญ่ อายุ 29 ปี นายเติมศักดิ์ สันทะศร อายุ 32 ปี ทั้งหมดเป็นชาวอำเภอนาจะหลวย และอำเภอบุณฑริก ส่วนที่ยังหลบหนี คือ นายสุทธิพงษ์ สายทอง อายุ 32 ปี ชาวบ้านบ้านโพนแพง หมู่ 4 ต.ห้วยยาง อ.โขงเจียม โดยผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีข้อหาลักลอบตัดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้พะยูงหวงห้ามไว้ในครอบครอง และหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่