ศรีสะเกษ - ผู้ว่าฯ พระวิหาร เจรจาผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ผลักดันเปิดช่องตาเฒ่า ใกล้ปราสาทพระวิหาร หวังส่งเสริมการค้า และการท่องเที่ยว 2 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายอุม มารา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา พร้อมด้วย นายโคย คนโห สมาชิกกรมปรึกษา จ.พระวิหาร นายอุน จันดา รองผู้ว่าฯพระวิหาร พล.ต.โซม บุพารวตน์ ผู้บัญชาการทหารจังหวัดพระวิหาร และคณะผู้บริหารระดับสูงของ จ.พระวิหาร ได้เดินทางมาพบกับ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ นายวัฒนา พุฒิชาติ รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ นางสุจิตรา วิริยะกิตติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ และคณะผู้บริหารระดับสูงของ จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 จังหวัดให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนตามแนวชายแดน การส่งเสริมการค้า และการท่องเที่ยว ด้านการศึกษา ด้านแรงงาน ด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
นายอุม มารา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา กล่าวว่ มาหารือกับผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เพื่อขอให้อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปท่องเที่ยวที่ จ.พระวิหาร รวมทั้งให้หัวหน้าสำนักงานท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัดได้หารือกันเกี่ยวกับเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีความสะดวก โดยการเปิดปราสาทพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้นั้นยังไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากจะต้องรอคำสั่งจากรัฐบาลกัมพูชาเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าควรเปิดช่องตาเฒ่าที่อยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหารเพื่อเป็นจุดผ่านแดนชั่วคราว หรือเป็นการถาวร เพื่อจะได้เป็นการส่งเสริมการค้า และการท่องเที่ยวระหว่าง จ.พระวิหาร และ จ.ศรีสะเกษ อีกทั้งจะได้เป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปลายปีนี้อีกด้วย โดยหากเปิดช่องตาเฒ่าขึ้นมาจะทำให้การค้า และการท่องเที่ยวคึกคักมากกว่าเดิม
ขณะนี้ จ.พระวิหาร มีเพียงช่องอานม้าที่ จ.อุบลราชธานี เป็นช่องทางในการติดต่อกับประเทศไทย ส่วนช่องสะงำนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ของ จ.อุดรมีชัย การเปิดช่องตาเฒ่า จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 จังหวัดแน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเดิม
นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า การหารือกับผู้ว่าฯ พระวิหารในครั้งนี้มีการหารือกันทั้งด้านการศึกษา การท่องเที่ยว การค้าชายแดนด้านแรงงาน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้ง 2 จังหวัดที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนการที่ฝ่ายกัมพูชาจะขอเปิดช่องตาเฒ่า ซึ่งอยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร และปรายสารทพระวิหารเป็นจุดผ่านแดนนั้น จ.ศรีสะเกษ รับทราบ แต่เรื่องนี้ต้องมีการประชุมกันหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และความพร้อมของทั้ง 2 จังหวัดว่ามีความพร้อมอย่างไร
โดยในเดือน ธ.ค.นี้ จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว จ.ศรีสะเกษได้มีการประชุมหารือ และมีการเตรียมความพร้อม มีการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งมีการจัดเตรียมทุกด้านกับ จ.พระวิหาร จ.เสียมราฐ และ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาไว้เรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจว่า จ.ศรีสะเกษ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน