เชียงราย - สลดกันทั้งหมู่บ้าน สามี-ภรรยาชาวม้งเวียงแก่น พาลูกสาววัย 1 ขวบและ 10 นั่งหลบแดดใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ไร่ข้าวโพด ถูกฝูงต่อรุมต่อย แม่วิ่งเข้าไปช่วยโดนด้วย ขณะที่พ่อรีบพาส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ยื้อชีวิตไม่ได้ น้องสิ้นลมเช้า ส่วนพี่เสียชีวิตตอนเย็น
วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย มอบหมายให้นายกรีฑาพล โยยิกุล ปลัด อ.เวียงแก่น เดินทางไปร่วมพิธีอุทิศส่วนกุศลทางศาสนาให้กับ ด.ญ.ยิ่ง แซ่จื้อ อายุ 10 ปี เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 36 บ้านห้วยแล้ง ม.2 ต.ท่าข้าม อ.เวียงแก่น ซึ่งเป็นเป็นบ้านไม้ไผ่หลังคามุงจากของกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ก่อนที่จะทำพิธีฝังศพในวันที่ 6 ก.ย.นี้ ณ สุสานภายในหมู่บ้าน
ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลดเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ด.ญ.ยิ่ง แซ่จื้อ ซึ่งถูกฝูงต่อรุมต่อย ไม่ได้เสียชีวิตเพียงคนเดียว แต่ยังมี ด.ญ.ดารุณี แซ่จื้อ อายุ 1 ขวบ ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของ ด.ญ.ยิ่ง ก็เสียชีวิตด้วย แต่ได้มีการทำพิธีฝังศพไปก่อนหน้านี้แล้ว
นายเลาฟ้า แซ่จื้อ อายุ 36 ปี บิดาของเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 2 คน กล่าวว่า เหตุน่าเศร้าดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ขณะที่ตนพร้อมด้วยนางหมี แซ่จื้อ อายุ 33 ปี และลูกๆ คือ ด.ญ.ยิ่ง - ด.ญ.ดารุณี ไปไร่ข้าวโพดที่ทำกันอยู่ที่้ท้ายหมู่บ้าน เมื่อถึงไร่ข้าวโพดช่วงสายๆ ตนได้พาลูกสาวทั้ง 2 คน ไปนั่งหลบแดดใต้ต้นยางใกล้กับไร่
จากนั้นตนกับภรรยาได้เข้าไปในไร่ข้าว ที่อยู่ห่างจากต้นไม้ประมาณ 300 เมตร พักใหญ่ต่อมา ลูกสาวคนโตคือ ด.ญ.ยิ่ง วิ่งมาหาด้วยความตื่นตระหนก และร้องตะโกนว่า “ถูกตัวต่อรุมต่อย” ทำให้ตนและภรรยาตกใจรีบวิ่งไปดูลูกสาวคนเล็กที่ยังนั่งอยู่ใต้ต้นยาง ก็พบว่าด.ญ.ดารุณี ถูกตัวต่อรุมต่อยเต็มใบหน้า ศีรษะ ลำตัว และแขนขา จึงรีบปัดตัวต่อออกจากตัวลูก ทำให้ภรรยาก็ถูกตัวต่อยกัดเช่นกัน จากนั้นตนได้พาทั้งหมดไปที่รถยนต์กระบะที่จอดเอาไว้ใกล้ไร่ พาลูกไปโรงพยาบาลเวียงแก่น อย่างเร่งด่วน
นายเลาฟ้า กล่าวว่า เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเวียงแก่น แพทย์ได้ตรวจอาการเบื้องต้นแล้ว ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อย่างเร่งด่วน จากนั้นได้นำรถส่งตัวออกจากโรงพยาบาลมาได้ครู่หนึ่ง ด.ญ.ดารุณีกลับเสียชีวิตแล้ว จึงได้นำศพไปประกอบพิธีฝังที่สุสานของหมู่บ้านไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ก.ย.
ส่วนนางหมี และด.ญ.ยิ่งยังมีอาการสาหัส หลังจากนั้นนางหมีพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ ด.ญ.ยิ่งทางแพทย์ได้ช่วยฟอกเลือดถึง 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีอาการสาหัสจึงเสียชีวิตลงอีกคนในเย็นวันที่ 3 ก.ย.ตนจึงนำร่างไปประกอบพิธีฝังต่อจากลูกคนเล็กอีกคน
“เสียใจมาก และยังไม่ทราบว่าฝูงต่อมาจากไหน รวมทั้งไม่เข้าใจว่า เหตุใดจึงมารุมต่อยแต่ครอบครัวคนเท่านั้น ทั้งๆที่บริเวณใกล้เคียง ก็มีไร่ข้าวโพด และคนอื่นๆอยู่มากมาย”
ด้านนายกรีฬาพล กล่าวว่า จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ที่บริเวณต้นไม้ที่อยู่ใกล้กับไร่ข้าวโพดมีรังต่อขนาดใหญ่ ซึ่งอาจถูกรบกวนทางใดทางหนึ่ง จึงเกิดคลุ้มคลั่งแตกรังลงมาต่อยเด็กที่อยู่ใต้ต้นไม้ จนกลายเป็นเหตุน่าเศร้าสลดต่อครอบครัวนี้