ระยอง - รพ.ระยอง จัดประชุมวิชาการอาชีวอนามัยและพิษวิทยาภาคตะวันออก ครั้งที่ 3 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องของปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม และปัญหาด้านการยศาสตร์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมสตาร์ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานการประชุมวิชาการอาชีวอนามัยและพิษวิทยาภาคตะวันออก ครั้งที่ 3 จัดขึ้นโดยกลุ่มงานอาชีวเวชกรรม โรงพยาบาลระยอง นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง ให้การต้อนรับ
โดยมีแพทย์ พยาบาล นักวิชาการ นักชีวอนามัย เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย และบุคลากรในสถานประกอบการในภาคตะวันออก และทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม จำนวน 200 คน
สำหรับการจัดประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นการให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม และปัญหาด้านการยศาสตร์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นายแพทย์วิฑูรย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยอง มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ทำให้มีการนำสารเคมี หรือวัตถุอันตรายมาใช้ในกระบวนการผลิต มีการเก็บ การนำสั่ง และการใช้สารเคมีเป็นจำนวนมากอันดับต้นๆ ของประเทศ เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาจากพิษของสารเคมีต่อสุขภาพ ทั้งจากเหตุฉุกเฉิน ได้แก่ การหกรั่วไหลของสารเคมีขณะปฏิบัติงาน การระเบิด ไฟไหม้ และปัญหาเรื้อรังต่อภาวะสุขภาพจากการได้รับกลิ่นเหม็น หรือจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในสถานประกอบการ เส้นทางการขนส่ง และชุมชนโดยรอบทั่วไป
นายแพทย์วิฑูรย์ กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลระยอง มุ่งเน้นให้บริการแบบองค์รวมด้านการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพ สร้างเสริมสุขภาพป้องกันและควบคุมโรคที่ได้มาตรฐาน มีการบริการชีวเวชศาสตร์ของประเทศให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางในสาขาที่กำหนด และการพัฒนาความเชี่ยวชาญในด้านจัดบริการ โดยสอดคล้องต่อสภาพปัญหาในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
ทั้งการทำงานเชิงรุก การวิจัย เฝ้าระวังสุขภาพเชิงรุกต่อเนื่อง พัฒนาศักยภาพกำลังคนทั้งจำนวนและองค์ความรู้ด้านอาชีวอนามัย ฝึกอบรมแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ พยาบาล และบุคลากรในสถานประกอบการทุกระดับ โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาต่างๆ อีกทั้งมีมาตรการสร้างความปลอดภัย ลดผลกระทบสุขภาพที่ต้องดำเนินการควบคู่กับภาคอุตสาหกรรมตามมาตรฐานอย่างเข้มงวดตลอดมา