บุรีรัมย์ - แม่และญาติหนุ่มช่างเฟอร์นิเจอร์เหยื่อพ่อตายิงใช้ไม้ทุบศีรษะฆ่าโหด ก่อนนำศพไปทิ้งข้างสระน้ำอำพรางคดี ถือป้ายบุก สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรม ผกก.เร่งสาวหาตัวผู้กระทำผิดร่วมตัวจริงมาดำเนินคดีเพราะเชื่อพ่อตาไม่ได้ก่อเหตุคนเดียว ขณะ ผกก.ยันเร่งรัดคดีและให้ความเป็นธรรม
วันนี้ (27 ส.ค.) นางพวง ไมล์ไธสง อายุ 47 ปี พร้อมญาติ ของนายรังสรรค์ จันภิรมย์ หรือหนุ่ม อายุ 26 ปี ลูกชายของนางพวง ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างเฟอร์นิเจอร์ และชาวบ้านร่วม 50 คนได้เดินทางมาถือป้ายขอความเป็นธรรมและรูปถ่ายสภาพศพของผู้ตาย ขึ้นไปบน สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เพื่อร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.สานนท์ สามนปาล ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.พุทไธสง ให้เร่งรัดคดีที่นายรังสรรค์ ถูกนายสุระปรีชา แหลมไธสง พ่อตา ใช้อาวุธปืนยิงศีรษะแล้วใช้ไม้ทุบตีซ้ำก่อนนำศพไปทิ้งอำพรางอย่างโหดเหี้ยม บริเวณข้างสระน้ำบ้านหนองบัวรอง ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง เมื่อคืนวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
พร้อมทั้งเรียกร้องให้เร่งติดตามนำตัวผู้ร่วมกระทำผิดตัวจริงมาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมดโดยเร็ว เพราะไม่เชื่อว่านายสุระปรีชาพ่อตาจะลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียวและเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนใหม่ เนื่องจากไม่มั่นใจในการทำคดีเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งผู้กำกับการ สภ.พุทไธสงได้ให้แม่ผู้เสียชีวิตลงบันทึกประจำวันคำให้การเพิ่มเติมไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้แม่และญาติได้ร่วมกันเข้าร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ และอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้นายสุระปรีชาถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ หลังถูกแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย, ฆ่าคนโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ซ่อนเร้นย้ายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย”
ด้าน พ.ต.อ.สานนท์ สามนปาล ผกก.สภ.พุทไธสง กล่าวหลังรับเรื่องร้องยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมต่อแม่และครอบครัวผู้ตาย ส่วนกรณีที่แม่และญาติติดใจในคดีการเสียชีวิตโดยไม่เชื่อว่าจะมีการก่อเหตุคนเดียวนั้นจะกำชับให้พนักงานสอบสวนทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม หากมีข้อมูลหลักฐานเชื่อมโยงชี้ชัดว่ามีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิด ก็จะนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย
ส่วนที่ญาติเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนในการทำคดีนั้นจะได้ทำเรื่องเสนอไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับทราบและพิจารณาตามขั้นตอน เพราะการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนไม่ได้อยู่ในอำนาจของผู้กำกับการที่จะสามารถกระทำได้ แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมทั้งจะเร่งรัดคดีดังกล่าวให้เกิดความกระจ่างและแล้วเสร็จโดยเร็ว
จากนั้นแม่และญาติพร้อมชาวบ้านที่มาติดตามคดีและเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้กำกับการ สภ.พุทไธสง พอใจในคำชี้แจงและได้พากันเดินทางกลับในเวลาต่อมา