นครปฐม - สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 จัดโครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรม เน้นให้ผู้เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์การค้ามนุษย์ พร้อมร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาระบบกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่โรงแรมไมด้า ทวารวดี จังหวัดนครปฐม นายวีรวิทย์ สายสมบัติ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 เป็นประธานในการเปิดโครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ประจำปี 2558 ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 มีนายประดิษฐ์ จิตต์จำนง รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 เป็นผู้กล่าวรายงาน ร่วมด้วยผู้แทนจากองค์กรต่างๆ อาทิ อัยการ ตำรวจ ทนายความ ราชทัณฑ์ บังคับคดี คุมประพฤติ สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน บังคับคดี และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายวีรวิทย์ สายสมบัติ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 เปิดเผยว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ถือเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ในรูปแบบการค้าบริการทางเพศ การค้าแรงงงาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมประมง และการค้ามนุษย์ในแบบอื่น เช่น การขอทาน การค้าอวัยวะ และการบังคับตั้งครรภ์ ซึ่งสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ได้ตระหนักถึงความสำคัญ
จึงได้จัดให้มีการอภิปรายในหัวข้อเรื่อง การประสานความร่วมมือของหน่วยงาน ในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ได้มีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติงาน และร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนาระบบกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินงาน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยเล็งเห็นว่าปัญหาเรื่องการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ เป็นเรื่องวาระระดับชาติที่จะต้องแก้ไขและทำความเข้าใจร่วมกันอย่างเร่งด่วนและจริงจัง ซึ่งการนำเรื่องปัญหาแรงงานเข้ามาทำความเข้าใจร่วมกันของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติและผู้บังคับถือใช้กฎหมายจะทำให้ประชาชนได้รับการอำนวยความยุติธรรม และยังเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพด้วยความเที่ยงธรรม รวดเร็ว และเสมอภาคต่อกันด้วย