xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” จับแก๊งค้ามนุษย์ตุ๋นสาวไทยผ่านเฟซบุ๊ก ค้ากามที่มาเลย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ดีเอสไอ จับกุม 3 ผู้ต้องหาชาวมาเลเซียร่วมกับคนไทยหลอกลวงผู้หญิงไทยผ่านเฟซบุ๊ก บังคับค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซีย



วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงษ์ ผบ.สำนักกิจการระหว่างประเทศและอาชญากรรมระหว่างประเทศ พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาราชการแทน ผอ.การศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ พ.ต.ต.อาริชย์ ทัศน์พันธุ์ ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปราม 3 และนายจามี เอ็ม. ฮิวส์ (Mr. Jamie M. hughes) ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของมูลนิธิฟรีแลนด์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ามนุษย์ จำนวน 3 ราย คือ 1. นายเค็ง เซียงโลว์ หรือนายสตีเวน โลว์ ชาวมาเลเซีย โดยจับกุมได้ที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2. นางรัชดาพรรณ แสนเกษม จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพักย่านบางบอน-บางขุนเทียน และ 3. นางกัลยา สมศรี จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพัก อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

นางสุวณากล่าวว่า ดีเอสไอได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์โดยใช้วิธีการหลอกลวงหญิงไทยผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อไปบังคับค้าประเวณีในพื้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ดีเอสไอ ได้รับการประสานข้อมูลจากมูลนิธิฟรีแลนด์ว่ามีหญิงไทยได้ขอความช่วยเหลือจากการถูกนายหน้าชาวต่างชาติและภรรยาซึ่งเป็นคนไทยหลอกลวงบังคับไป จากนั้นทางศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้ทำการสืบสวนจนสามารถขออนุญาตศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย เป็นชาย 2 คน และหญิง 2 คน และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ส่วนอีกรายอยู่ระหว่างการหลบหนี

ด้าน พ.ต.ต.อาริชย์กล่าวว่า จากการสอบปากคำของผู้เสียหายทราบว่า ผู้ต้องหาได้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า สตีเวน โลว์, สตีเวน พัทยา และอื่นๆ มาชักชวนผู้เสียหายให้ไปทำงานในประเทศมาเลเซีย โดยอ้างว่ามีหุ้นส่วนในกิจการหลายประเภท เช่น ร้านสปา ร้านคาราโอเกะในโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อและได้นำเอกสารสัญญาซึ่งเป็นสัญญาที่ทำขึ้นมาเองมาให้ผู้เสียหายเซ็น โดยที่ไม่ได้ให้อ่านรายละเอียด จากนั้นจึงนำผู้เสียหายเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียโดยรถประจำทาง และเมื่อถึงสถานที่ทำงานปรากฏว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลง ทั้งนี้ ในสัญญาดังกล่าวผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นสัญญาที่ระบุเกี่ยวกับการทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร หรือเด็กดริงก์ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าสัญญาดังกล่าวมีรายละเอียดที่เกี่ยวกับการค้าบริการทางเพศ

พ.ต.ต.อาริชย์กล่าวต่อว่า เมื่อนายสตีเวนพาผู้เสียหายเดินทางมาถึงมาเลเซียแล้วได้ขายกลุ่มผู้เสียหายต่อไปให้ชาวมาเลเซียรายหนึ่ง จากนั้นได้ควบคุมไปทำงานขายบริการในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งชาวมาเลเซียรายนี้ได้อ้างถึงสัญญาฉบับดังกล่าวว่าผู้เสียหายได้ตกเป็นหนี้จำนวนเงิน 30,000 บาท เป็นค่าเดินทาง ค่าอาหาร รวมถึงค่านายหน้า และต้องทำงานขายบริการทางเพศเพื่อหักค่าตอบแทนมาใช้หนี้จำนวนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลต่อดีเอสไออีกว่า สภาพที่พักอาศัยมีลักษณะไม่ต่างจากคุก โดยมีคนคอยควบคุมประตูทางเข้าออกด้วยระบบรีโมตคอลโทรลอยู่ตลอดเวลา และเวลาจะรับประทานอาหารจะมีคนคอยส่งข้าว หรืออาหารผ่านช่องรับส่งอาหาร อีกทั้งผู้เสียหายบางรายถูกยึดหนังสือเดินทาง

ทั้งนี้ สำหรับกรณีดังกล่าวผู้เสียหายถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ จนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขบวนการดังกล่าวได้มีการหลอกลวงประชาชนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5-6 ปี โดยมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อประมาณ 100 ราย ในส่วนของการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินนั้น ดีเอสไอจะประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหาต่อไป

ด้านนายจามี เอ็ม. ฮิวส์ กล่าวว่า ตนขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนให้มีการตั้งข้อสังเกตหากมีผู้ชักชวนไปทำงานยังต่างประเทศในลักษณะนี้หรืออื่นๆ ให้พิจารณาว่ามีความเป็นจริงหรือไม่ ทั้งในส่วนของผลตอบแทนที่จะได้รับ สภาวะแวดล้อมต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีการสงสัยให้แจ้งมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

สำหรับการประเมินการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาในเดือนนี้ ตนเชื่อว่าประเทศไทยจะได้รับการจัดอันดับค้ามนุษย์ หรือทริปรีพอร์ตในครั้งต่อไปดีขึ้น เนื่องจากการทำงานของดีเอสไอและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีผลการทำงานที่ดีขึ้นและสามารถจับผู้ต้องหารายสำคัญๆได้

นอกจากนี้ นางสุวณายังกล่าวถึงกรณีที่จะมีการรายงานผลการจัดการปัญหาการค้ามนุษย์ที่จะมีขึ้นในปลายเดือน ก.ค.นี้ ว่า หากเป็นในทางนโยบายก็เป็นความคาดหวังของประเทศไทยว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งก็อาจส่งผลไปถึงการจัดอันดับค้ามนุษย์ หรือทริปรีพอร์ต ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเรื่องการค้ามนุษย์ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงของโลก อย่างไรก็ตาม ทุกหน่วยต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง เพราะการค้ามนุษย์ส่งผละทบเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ทั้งนี้ ประเทศไทยคาดหวังว่าจะได้รับการยอมรับหรือยกระดับในทางที่ดีขึ้น โดยในส่วนของดีเอสไอได้ทำงานในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้









กำลังโหลดความคิดเห็น