เชียงราย - ผู้บัญชาการตำรวจ ปส.นำทีมตำรวจภูธรเชียงราย ทหาร ป.ป.ส. ปปง. ตามยึด/อายัดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด “ปี๊บหน่อไม้” ของนายทุนท่าข้าวใหญ่ พร้อมคนแวดล้อม ทั้งเชียงราย-พะเยา รวมมูลค่าทั้งยานรก-ทรัพย์สินกว่า 120 ล้านบาท แถมพบมีการโอนเงินปริศนาให้หญิงลาวหลายครั้งกว่า 800 ล้านบาท
วันนี้ (23 ส.ค.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษตร ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.อ.จักรวัฎ หล่ายศรี รองเสนาธิการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำกำลังเจ้าหน้าที่่เข้าติดตามจับกุมนายธีราพัทธ์ กาวี อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับศาลอาญาเลขที่ 111/2558 ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2558 ในคดียาเสพติด
จากนั้นเข้าตรวจค้นกิจการในเครือนายธีราพัทธ์ คือท่าข้าวบริษัททรัพย์เจริญนอร์ทเทิร์นไรซ์ จำกัด เลขที่ 465 ม.6 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย รวมทั้งกระจายกำลังกันออกยึดอายัดทรัพย์สินเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ใน จ.เชียงราย และ จ.พะเยา อีกหลายแห่ง
พล.ต.ท.เรวัชเปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ทำตามแผนปฏิบัติการขุดรากถอนโคน ขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญของตำรวจทั่วประเทศ 56 จุด สำหรับภาคเหนือมี 40 กว่าจุด และกรณีที่ จ.เชียงรายนี้เป็นเครือข่ายยาบ้า “ปี๊บหน่อไม้” เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายภูวดล จินดาวงศ์ และนายวีระชาติ สังวาลวงศ์ พร้อมของกลางยาบ้า 2.7 ล้านเม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 21 กิโลกรัม บรรจุในปี๊บหน่อไม้ ขณะนำไปส่งที่ปลายทางที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อสืบสวบสอบสวนขยายผลแล้วทราบว่ายาเสพติดดังกล่าวขนและบรรจุจาก จ.เชียงราย โดยเครือข่ายของนายธีราพัทธ์ และยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องที่นำไปสู่การขออนุมัติหมายจับของศาลอาญาอีก 6 คน คือ นายองอาจ เขื่อนเพชร นายประคอง อันทะปัญญา นายวีรพงษ์ พรมแดน นายทินกร มงคลจิรพันธ์ นายอรรถพรรณ รักกูล และนายอมรเทพ เลื้อยกระโทก ซึ่งหลายคนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว เช่น นายวีรพงษ์ ที่เป็นคนช่วยขนปี๊บหน่อไม้ขึ้นรถทำให้มีลายนิ้วมือติดอยู่ แต่เจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย เพราะถูกว่าจ้างให้ไปขนปี๊บ เป็นต้น
พล.ต.ท.เรวัชกล่าวว่า อย่างไรก็ตามตัวนายธีราพัทธ์ยังคงหลบหนีไปได้ โดยคาดว่าข้ามไปยังฝั่งประเทศพม่าแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังทางการพม่าเพื่อติดตามจับกุมต่อไป ส่วนการยึดอายัดทรัพย์สินครั้งนี้ มีทั้งที่ดิน กิจการ บ้าน รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 80 ล้านบาท เมื่อรวมมูลค่ายาบ้าอีกประมาณ 40 ล้านบาท รวมประมาณ 120 ล้านบาท
“เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเครือข่ายรายนี้ขนยาเสพติดไปโดยวิธีการนี้แล้วหลายครั้ง โดยเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อนได้มีการซื้อขายยาเสพติดกัน เริ่มจากหลักพันเม็ดเป็นแสนเม็ด กระทั่งล่าสุดขึ้นเป็นระดับ 2.7 ล้านเม็ด จนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ และขยายผลจนทราบว่ามีการโอนเงินให้นางหมอน ซึ่งเป็นคนสัญชาติลาว 800 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจนจับกุมนางหมอนได้ที่ จ.เชียงใหม่เมื่อ 4 วันก่อนแล้ว แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ โดยอ้างเป็นเงินจากการค้าขาย ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทรัพย์กันอยู่”
พล.ต.ท.เรวัชกล่าวว่า ด้วยมูลค่าที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าว ทำให้ในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เน้นการขยายผลและยึดทรัพย์ให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ใช้เพื่อนำมากระทำความผิดได้อีก จึงอาศัยการทำงานทีมร่วมกับเจ้าหน้าที่ในท้องที่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ปปง. ตำรวจ ป.ป.ส.
สำหรับนายธีราพัทธ์เคยรับราชการเป็นตำรวจยศ “ดาบตำรวจ” และได้ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อปี 2540 ทั้งยังเคยถูกยึดทรัพย์มาแล้ว และเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำมาเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา กระทั่งมาเกิดคดีใหม่ในครั้งนี้ดังกล่าว
ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่านายธีราพัทธ์มีทรัพย์สินที่ให้คนอื่นดูแลหลายรายการ โดยที่ท่าข้าวก็ให้พี่ภรรยาเป็นคนดูแลในนามประธานบริษัท มีหุ้นอยู่ร่วม 15 ล้านบาท แต่ให้เงินค่าดูแลเดือนละเพียง 5,000 บาท ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดบ้านของนายธีราพัทธ์อีกหลายรายการ คือ บ้านเลขที่ 456/25 ม.6 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย, บริษัท ล้านนา รับเบอร์ อินเตอร์เทรด จำกัด เลขที่ 269 ม.7 ต.บ้านเหล่า อ.แม่ใจ จ.พะเยา และตรวจยึดทรัพย์เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของภรรยา-พี่ภรรยาของนายธีราพัทธ์ 6 แปลง
นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์ของคนในเครือข่ายนี้อีกหลายคน คือ ทรัพย์สินของนายประคอง เป็นบ้านสร้างใหม่ไม่มีเลขที่ ม.6 ต.ทรายขาว อ.พาน และทรัพย์สินของภรรยานายองอาจ เป็นที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 8 ตางรางวา ที่ ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย และที่ดินอีก 6 แปลงใน ต.ป่าแผก และ ต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ จ.พะเยา