xs
xsm
sm
md
lg

ภาคเอกชนหนุนส่งอาสาสมัครเก็บกับระเบิดตกค้างหลังสงครามกลางเมืองกัมพูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อุบลราชธานี - มูลนิธิถนนแห่งสันติภาพ ส่งอาสาสมัครพลเรือนเข้าช่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทย ลาว กัมพูชา จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีทุ่นระเบิดสังหารบุคคลตกค้างตั้งแต่สงครามกลางเมืองกัมพูชามากที่สุดในประเทศไทย ด้านประชาชนผู้เคราะห์ร้ายวอนรัฐช่วยสนับสนุนขาเทียมและให้ทางมูลนิธิและหน่วยงานทหารเร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่เหลือออกไปให้หมดโดยเร็ว

วันนี้ (21ส.ค.) ที่โรงเรียนบ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ศจ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการมูลนิธิถนนแห่งสันติภาพ และกลุ่มองค์กรเอกชนที่ให้การสนับสนุนโครงการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ตกค้างมาหลังสงครามกลางเมืองกัมพูชา ได้เดินทางมาดูการปฏิบัติงานของอาสาสมัครของมูลนิธิ พร้อมมอบขาเทียมช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านโนนสูง ซึ่งได้รับผลกระทบระหว่างออกเก็บของป่าและเหยียบกับระเบิดจนกลายเป็นคนพิการจำนวน 26 ราย

สำหรับโครงการเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่ตำบลโดมประดิษฐ์ มูลนิธิถนนแห่งสันติภาพ ส่งอาสาสมัครภาคเอกชนเข้าร่วมเก็บกู้ระเบิดจำนวน 25 คน โดยเริ่มทำการเก็บกู้ในพื้นที่ลำห้วยคลองลึก ติดอ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนล่าง ห่างจากหมู่บ้านไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบนเทือกเขาพนมดงรัก พื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร

โดยได้ทำการเก็บกู้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 ถึงปัจจุบันสามารถเก็บกวาดทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทั้งแบบ PMN 2 (ปิ่นโต) และ TYPE 69 (กบกระโดด) และอื่นๆรวม 268 ลูก และคาดว่ายังเหลือทุ่นระเบิดอีกราว 350 ลูก ซึ่งทางอาสาสมัครของมูลนิธิคาดว่า จะสามารถเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่เหลือได้ทั้งหมดภายในเดือนตุลาคม 2558 และทุ่นระเบิดทั้งหมดมีอายุประมาณ 30 ปี แต่ยังมีสภาพใช้การได้ดี

หลังจากนั้นจะได้ขอรับความสนับสนุนองค์กรเอกชนที่ให้ทุนใช้เก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อขยายพื้นที่ไปยังแปลงทุ่นระเบิดที่เหลืออยู่อีก 19 แปลง เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่ประกอบอาชีพในบริเวณดังกล่าว

สำหรับพื้นที่ที่พบทุ่นระเบิดในอำเภอน้ำยืน ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ โดยมีพื้นที่กับระเบิดกว้างถึง 120 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาทุ่นระเบิดทั้งหมด ได้ทำอันตรายกับประชาชนไทยและประชาชนประเทศเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา และลาว เป็นประจำ

ล่าสุดมีผู้เคราะห์ร้ายเป็นชาวบ้านโนนสูงไปเหยียบกับระเบิดที่ห้วยคลองลึก เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2558 ชื่อนายเหลือง วิลานันท์ อายุ 42 ปี ต้องตัดขาซ้ายถึงหัวเข่าระหว่างไปวางเบ็ดหาปลา ซึ่งนายเหลืองระบุว่า ตรงจุดที่ตนเหยียบกับระเบิดเป็นทางเดินที่ใช้เดินไปจับปลาเป็นประจำ แต่ถึงคราวเคราะห์ ทำให้ไปเหยียบจนต้องตัดขา จึงอยากให้ราชการช่วยหาขาเทียมมาให้ เพื่อสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น และต้องการให้มูลนิธิถนนแห่งสันติภาพร่วมกับหน่วยงานทหารเก็บกู้ทุ่นระเบิดออกไปให้หมด เพื่อชาวบ้านจะไม่ต้องมารับกรรมอีก

สำหรับพื้นที่บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน ในอดีตเป็นพี้นที่อยู่ในเขตการสู้รบในสงครามกลางเมืองของเขมร 3 ฝ่าย คือ เขมรสีหนุ เขมรฮุน เซน และเขมรแดง โดยบนเทือกเขาพนมดงรักในเขตตำบลโดมประดิษฐ์เป็นจุดยุทธศาสตร์ และเป็นเขตอิทธิพลของเขมรแดง นำโดยนายพลตา ม็อก ได้ตั้งฐานที่มั่นใช้ชื่อว่า ชมรมเซลำเพา

มีทั้งกำลังทหารและประชาชนเขมรเที่อพยพหนีภัยสงครามกลางเมือง มาตั้งเป็นแนวกันชนระหว่างพรมแดนไทย กัมพูชา และถูกใช้เป็นจุดส่งกำลังเข้าไปต่อสู้กับทหารเวียดนามที่ให้การสนับสนุนเขมรฮุน เซน จึงเกิดการต่อสู้มาตั้งแต่ พ.ศ.2522 จนถึงวันที่สหประชาชาติจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในกัมพูชาในปี 2536

หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองกัมพูชาพื้นที่บ้านโนนสูงและหมู่บ้านใกล้เคียง จึงเต็มไปด้วยกับระเบิดนานาชนิด จึงมีหน่วยงานสากลเข้ามาช่วยเก็บกู้นำไปทำลายถึงทุกวันนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น