เชียงราย - ด่านชายแดนเมืองพ่อขุนฯ ตรวจละเอียดยิบทั้งคน-สินค้า-ยานพาหนะ สกัดคนร้ายแฝงตัวเข้า-ออก หลังเกิดเหตุบึ้มแยกราชประสงค์
วันนี้ (19 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุระเบิดรุนแรงที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ชายแดนด้าน จ.เชียงราย ตรวจตราคน-สินค้า รวมถึงยานพาหนะต่างๆ ที่เข้า-ออกผ่านด่านชายแดนอย่างละเอียดเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจจะโยงไปถึงเหตุการณ์รุนแรงดังกล่าว
โดยเฉพาะที่ด่านพรมแดน อ.เชียงของ ซึ่งมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 เชื่อมกับถนนอาร์สามเอ (ไทย-สปป.ลาว-มณฑลยูนนาน สป.จีน) พบว่าเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงของต่างเพิ่มมาตรการตรวจตราควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น ชาวยุโรป จีน ฯลฯ ที่เดินทางเข้า-ออกผ่านช่องทางนี้ด้วยรถประจำทางระหว่างประเทศ และรถส่วนบุคคลวันละกว่า 3,800 คน
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหนังสือเดินทางระหว่างประเทศว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับที่ปรากฏในหนังสือเดินทางหรือไม่ ส่วนการนำรถยนต์ผ่านช่องทางนี้ก็จะต้องแสดงหนังสืออนุญาตรถยนต์ระหว่างประเทศ หรือสมุดสีม่วง รวมถึงสติกเกอร์เครื่องหมายแสดงประเทศ หรือ IT PLATE และใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ระหว่างประเทศหรือใบขับขี่สากลอย่างเข้มงวดด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุรุนแรงดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมากนัก โดยยังคงมีผู้เดินทางเข้าออกอย่างต่อเนื่อง แต่หลายฝ่ายกำลังเฝ้าจับตามองในระยะต่อไปว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงหรือไม่อย่างไร เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นได้เพียงประมาณ 1 วัน
ด้านนายพีระ สีนาเจริญ เจ้าพนักงานศุลกากรชำนาญงาน กล่าวว่า จากการตรวจสอบ จนถึงขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นปกติ หลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงทางนายศรชัย สร้อยหงษ์พราย นายด่านศุลกากรเชียงของ ได้สั่งการดูเรื่องบุคคลที่สาม หรือต้องสงสัยที่มากับสินค้า และพาหนะส่วนบุคคลที่เดินทางเข้าออกอย่างเข้มงวด
โดยมีการตรวจสอบเรื่องเอกสารเข้าออกอย่างถูกต้อง หากมีการถูกขูด ลบ ฆ่าอักษรตราในเอกสารก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด และขอดูต้นฉบับเพื่อนำมาเปรียบเทียบทันที เพื่อป้องกันการแฝงตัวของผู้ก่อการร้าย ผู้ร้ายข้ามแดน และบุคคลตามหมายจับซึ่งอาจจะมาก่อเหตุในประเทศไทยได้ต่อไป
