ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองเชียงใหม่ ประชุมร่วม 3 ฝ่ายกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังเหตุระเบิดราชประสงค์ ชี้สี่เหลี่ยมคูเมืองเป็นพื้นที่ล่อแหลม สั่งตั้งด่านตรวจสกัดเข้มตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดลาดตระเวนตรวจตราและเฝ้าระวังตามจุดสำคัญต่างๆ ทั้งสถานที่ราชการ และแหล่งชุมนุมนักท่องเที่ยว ระบุการข่าวความมั่นคงในพื้นที่ไร้ความเคลื่อนไหวผิดปกติ
วันนี้ (18 ส.ค. 58) ที่มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ พ.อ.จิราวัฒน์ จุฬากุล รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เป็นประธานประชุมหารือร่วมระหว่างฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อวางแผนการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ ช่วงค่ำวานนี้ (17 ส.ค. 58)
โดยรองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เปิดเผยหลังการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เบื้องต้นได้ข้อสรุปร่วมกันว่ารอบสี่เหลี่ยมคูเมืองเชียงใหม่ถือเป็นจุดเสี่ยงและล่อแหลม ซึ่งจะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่เป็นการบูรณาการร่วมกัน 3 ฝ่าย ปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง
โดยมีจุดหลักอยู่ที่บริเวณประตูท่าแพ เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น.วันนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันจะมีการจัดชุดลาดตระเวนออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจตราตามพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดรอบนอกสี่เหลี่ยมคูเมืองทั้ง 4 ด้านด้วย
พร้อมกันนี้มีมาตรการเสริมในการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ในการดูแลสถานที่สำคัญต่างๆ ด้วย เน้นจุดที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งสถานที่ราชการ และแหล่งชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า แหล่งจับจ่ายซื้อของ เป็นต้น
ส่วนพื้นที่รอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นกำลังหลักในการตั้งด่านตรวจด่านสกัดตามเส้นทางจากอำเภอรอบนอกทุกเส้นทางเข้ามายังตัวเมืองเชียงใหม่
นอกจากนี้ พ.อ.จิราวัฒน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีการประชุมติดตามความเคลื่อนไหวการข่าวด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยมีการกำหนดเป้าหมายและพื้นที่ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ยังไม่ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ทาง คสช.มีการเน้นย้ำเป็นปกติอยู่แล้วในการคุ้มครองดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยว