นายกฯ ทราบเหตุระเบิดราชประสงค์แล้ว สั่ง “ประวิตร” ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมรายงานเป็นระยะ เผยยังตอบไม่ได้เหตุเกิดจากอะไร แต่ถ้าเป็นการจงใจก่อเหตุ จะต้องติดตามคนร้ายมารับโทษให้ได้
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทราบเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์แล้ว และได้สั่งการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบเป็นระยะ ๆ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปว่าที่จะบอกว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดจากอะไร แต่ได้ให้ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ กทม. เข้าพื้นที่โดยเร็ว และนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ พร้อมทั้งดูแลผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม แม้ตอบไม่ได้ว่าตอนนี้เหตุเกิดจากอะไร แต่ถ้าเป็นการจงใจของฝ่ายผู้ไม่หวังดี รัฐบาลจะดำเนินการติดตามบุคคลที่ก่อเหตุมารับโทษให้ได้ โดยในวันนี้ นายกฯ ได้ติดตามตลอดตั้งแต่ทราบเรื่อง และสั่งงานอย่างใกล้ชิด
ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รายงานเหตุระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร รับทราบแล้ว โดย พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการในเบื้องต้นดูแลประชาชนในพื้นที่ และทยอยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล รวมถึงควบคุมดูแลพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุแทรกซ้อน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับว่าดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่จะรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์และการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเป็นระยะ ๆ ทั้งนี้ รายละเอียดเหตุการณ์ทั้งหมดจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้แถลง ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานทั้งหมด
ขณะที่ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีรับทราบรายงานเหตุระเบิดแยกราชประสงค์แล้ว ซึ่งหลังจากได้รับรายงานจากตำรวจนายกฯ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ อีโอดี เข้าตรวจสอบพื้นที่และกันคนออกจากพื้นที่ เกิดเหตุป้องกันเหตุระเบิดซ้ำ และให้รายงานความคืบหน้าสถานการณ์โโดยตลอด โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจน ก่อนนำเสนอข้อมูล และขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก และหากมีความคืบหน้าก็จะรายงานให้ทราบทันที