00 เชื่อหรือไม่ว่าอารมณ์ของสังคมในเวลานี้มี "ความรู้สึกร่วม" กันแบบฉับพลันทันใดว่า ถึงเวลาแล้วที่ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ต้องปรับครม.ได้แล้ว และแม้ว่าส่วนใหญ่จะเพ่งเล็งไปที่ ครม.เศรษฐกิจ หรือ "ทีมเศรษฐกิจ" ที่นำโดย "หม่อมอุ๋ย" ม
.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจในปัจจุบันเท่านั้น แต่ในสายตาเท่าที่เห็น ต้องบอกว่าไหนๆ จะปรับครม.กันแล้วต้อง"จัดชุดใหญ่" กันไปเลย
00 อย่างไรก็ดี ต้องออกตัวกันไว้ก่อนว่า ปัญหาที่หากต้องปรับคราวนี้รับรองว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากเรื่องทุจริต หรือเรื่องอื้อฉาวใดๆ แต่เป็นเพราะ "ไม่เหมาะกับสถานการณ์" ไม่อยากจะพูดแรงให้น้อยใจ หรือหมางใจกัน แต่ต้องพูดกันตรงๆว่า "ไม่ถึง" จริงๆ และเวลานี้หากพูดกันแบบไม่ต้องเกรงใจ ก็ต้องปรับแบบยกทีมออกกันไปเลย และงานนี้ต้องบอกว่า ที่ยังต้องเหลืออยู่ก็แหงอยู่แล้วต้องเป็น "ทีมความมั่นคง" ที่นำโดย "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มท.1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รวมไปถึง "ทีมสีเขียว" ที่หอบหิ้วกันมาตั้งแต่คสช.ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ และ พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เป็นต้น รวมทั้ง รมว.ศึกษาฯ รมว.แรงงาน รมว.พัฒนาสังคมฯ ที่นาทีนี้แทบนึกไม่นอกว่ามีคนพวกนี้เป็นรัฐมนตรี ร่วมอยูในคณะรัฐบาล
00 ดังนั้น ถ้าบอกว่าจะปรับแค่ ครม.เศรษฐกิจ เพราะทำงานล้มเหลว ก็ต้องบอกว่าใช่ แต่ก็ต้องรวมถึง รัฐมนตรีกระทรวงอื่นด้วย เรียกว่าต้องโละกันไปแบบชุดใหญ่นั่นแหละ อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาจากอาการก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงจะกระอักกระอ่วนเต็มที หากจะปรับออก ก็อาจจะเกรงใจ "พี่ใหญ่" หรือเปล่าก็ไม่รู้ และที่ผ่านมาส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดล้วน "เป็นคอนเนกชั่น" เดียวกันเกือบทั้งสิ้น งานนี้ถ้าปรับ ก็หมายถึง "ความล้มเหลวของพี่ใหญ่" ไปด้วย อันนี้แหละที่มันเสียหาย เสียเครดิตใน "เส้นทางข้างหน้า" เสียด้วยซี พี่น้อง !!
00 อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ อารมณ์ของสังคมมาแบบนี้ มันก็เหมือนเป็นแรงบีบให้ต้องตัดสินใจกันแล้ว ซึ่งวิธีการก็น่าจะออกมาในแบบที่ ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกใบ้ไว้ก็คือ "เปิดทางให้ลาออกเอง" โดยอ้างปัญหาเรื่องสุขภาพ ซึ่งหากจำกันได้ ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดนำร่องเอาไว้แล้วว่า เวลานี้มี รมต.หลายคน บ่นอยากลาออกกันแทบทั้งนั้น เนื่องจากทำงานหนัก เหนื่อย อยากพักผ่อนกันแล้ว ซึ่งมันก็เข้าเค้า ได้จังหวะพอดี
00 แต่ถ้าพิจารณาตามจังหวะเวลาแล้ว มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่า น่าจะหลังสิ้นเดือนกันยาฯไปแล้ว อาจจะเป็นช่วงต้นเดือนตุลาฯ เพื่อรอให้บางคนเกษียณฯ หรือเปล่า ถ้ามีการเปลี่ยนตัว รมว.คลัง เป็นคนอื่น เช่น มีชื่อของ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ โผล่ขึ้นมา ก็อาจต้องรอให้ถึงเดือนตุลาฯก่อน รวมไปถึงเก้าอี้ ผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ที่ต้องเหลือเพียง รมช.กลาโหม จะมีเก้าอี้ตัวใหม่มาเพิ่มอีกหรือเปล่า น่าลุ้นนะ !!
.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจในปัจจุบันเท่านั้น แต่ในสายตาเท่าที่เห็น ต้องบอกว่าไหนๆ จะปรับครม.กันแล้วต้อง"จัดชุดใหญ่" กันไปเลย
00 อย่างไรก็ดี ต้องออกตัวกันไว้ก่อนว่า ปัญหาที่หากต้องปรับคราวนี้รับรองว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากเรื่องทุจริต หรือเรื่องอื้อฉาวใดๆ แต่เป็นเพราะ "ไม่เหมาะกับสถานการณ์" ไม่อยากจะพูดแรงให้น้อยใจ หรือหมางใจกัน แต่ต้องพูดกันตรงๆว่า "ไม่ถึง" จริงๆ และเวลานี้หากพูดกันแบบไม่ต้องเกรงใจ ก็ต้องปรับแบบยกทีมออกกันไปเลย และงานนี้ต้องบอกว่า ที่ยังต้องเหลืออยู่ก็แหงอยู่แล้วต้องเป็น "ทีมความมั่นคง" ที่นำโดย "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มท.1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รวมไปถึง "ทีมสีเขียว" ที่หอบหิ้วกันมาตั้งแต่คสช.ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ และ พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เป็นต้น รวมทั้ง รมว.ศึกษาฯ รมว.แรงงาน รมว.พัฒนาสังคมฯ ที่นาทีนี้แทบนึกไม่นอกว่ามีคนพวกนี้เป็นรัฐมนตรี ร่วมอยูในคณะรัฐบาล
00 ดังนั้น ถ้าบอกว่าจะปรับแค่ ครม.เศรษฐกิจ เพราะทำงานล้มเหลว ก็ต้องบอกว่าใช่ แต่ก็ต้องรวมถึง รัฐมนตรีกระทรวงอื่นด้วย เรียกว่าต้องโละกันไปแบบชุดใหญ่นั่นแหละ อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาจากอาการก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงจะกระอักกระอ่วนเต็มที หากจะปรับออก ก็อาจจะเกรงใจ "พี่ใหญ่" หรือเปล่าก็ไม่รู้ และที่ผ่านมาส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดล้วน "เป็นคอนเนกชั่น" เดียวกันเกือบทั้งสิ้น งานนี้ถ้าปรับ ก็หมายถึง "ความล้มเหลวของพี่ใหญ่" ไปด้วย อันนี้แหละที่มันเสียหาย เสียเครดิตใน "เส้นทางข้างหน้า" เสียด้วยซี พี่น้อง !!
00 อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ อารมณ์ของสังคมมาแบบนี้ มันก็เหมือนเป็นแรงบีบให้ต้องตัดสินใจกันแล้ว ซึ่งวิธีการก็น่าจะออกมาในแบบที่ ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกใบ้ไว้ก็คือ "เปิดทางให้ลาออกเอง" โดยอ้างปัญหาเรื่องสุขภาพ ซึ่งหากจำกันได้ ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดนำร่องเอาไว้แล้วว่า เวลานี้มี รมต.หลายคน บ่นอยากลาออกกันแทบทั้งนั้น เนื่องจากทำงานหนัก เหนื่อย อยากพักผ่อนกันแล้ว ซึ่งมันก็เข้าเค้า ได้จังหวะพอดี
00 แต่ถ้าพิจารณาตามจังหวะเวลาแล้ว มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่า น่าจะหลังสิ้นเดือนกันยาฯไปแล้ว อาจจะเป็นช่วงต้นเดือนตุลาฯ เพื่อรอให้บางคนเกษียณฯ หรือเปล่า ถ้ามีการเปลี่ยนตัว รมว.คลัง เป็นคนอื่น เช่น มีชื่อของ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ โผล่ขึ้นมา ก็อาจต้องรอให้ถึงเดือนตุลาฯก่อน รวมไปถึงเก้าอี้ ผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ที่ต้องเหลือเพียง รมช.กลาโหม จะมีเก้าอี้ตัวใหม่มาเพิ่มอีกหรือเปล่า น่าลุ้นนะ !!
