พิจิตร - “อภิสิทธิ์” แนะกรรมาธิการยกร่าง รธน.กลับไปคิดใหม่ แนวทางตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติเสี่ยงวุ่น ชี้รวมพรรคตั้งรัฐบาลต้องมาจากความสมัครใจ-อุดมการณ์เดียวกัน และยึดผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก ระบุถ้าใช้เงื่อนไขบังคับเสี่ยงมีปัญหา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างเดินทางไปเป็นประธานวางศิลาฤกษ์อาคารศาลาอเนกประสงค์วัดท่ามะไฟ ตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมืองพิจิตร วานนี้ (13 ส.ค.) ว่า กรณีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเตรียมที่จะเสนอจัดตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาตินั้น คงต้องไปดูความชัดเจนเกี่ยวกับข้อเสนอที่แท้จริงแล้วคืออะไร
ทั้งนี้ เนื่องจากเท่าที่ติดตามข่าวสารพบว่าจะมีการไปถามประชามติกับพี่น้องประชาชน และกำหนดเป็นเงื่อนไขการจัดตั้งเป็นรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ โดยมีเสียงในสภา 4 ใน 5 หรือการนำพรรคการเมืองหลายๆ พรรคมารวมกันจัดตั้งรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ระบุว่า การรวมตัวของพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลควรเกิดขึ้นจากความสมัครใจ เพราะถ้าหากการไปทำงานบริหารประเทศร่วมกันด้วยความสมัครใจแล้ว และอยู่บนพื้นฐานอุดมการณ์เดียวกัน ทุกสิ่งทุกอย่างหรือประเทศชาติก็สามารถเดินไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าพยายามไปใช้เงื่อนไขในการบังคับ และหลายพรรคการเมือง ที่มาอยู่ร่วมกันโดยที่ไม่เต็มใจ หรืออาจจะมีแนวคิดที่ไม่เหมือนหรือไม่ตรงกัน การบริหารงานก็จะมีปัญหา
นายอภิสิทธิ์ยังเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกลับไปตั้งโจทย์ใหม่อีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นจากรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือไม่ใช่เพราะมีฝ่ายค้าน ซึ่งถ้าไม่สามารถจำกัดอำนาจนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งได้ ก็เท่ากับไปหยุดยั้งให้นักการเมืองใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อให้เอาทุกพรรคการเมืองเข้าไปจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติแล้วทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกกฎหมาย ประชาชนที่ไม่ยอมก็จะลุกฮือต่อต้านประท้วง
ทั้งนี้ อยากให้ทุกฝ่าย ทุกพรรคการเมืองช่วยกันดูดีกว่าว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ต้องบริหารบ้านเมืองบนความซื่อสัตย์สุจริต ยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ใครเป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และที่สำคัญคือ จะต้องไม่มีลักษณะของการไปช่วงชิงอำนาจทางการเมืองที่อยู่นอกเหนือจากระบบ
ส่วนกรณีคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องของ สปช.ว่าถ้าเห็นว่าดีก็ยกมือให้ผ่าน ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็ไม่ยกมือ และกลับไปพิจารณากันใหม่เท่านั้น แต่ต้องไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง