ถกเครียดยาบำรุงกำลังผสมเหล้าขายในร้านชำ หลังเกิดเหตุพระแอบซื้อดื่มจนเมามาย

หนองบัวลำภู - หน่วยงานรัฐหนองบัวลำภู ถกเครียดยาบำรุงกำลังผสมแอลกอฮอล์ แต่เปิดขายหราในร้านขายของชำ เปิดช่องให้พระภิกษุ เด็ก ซื้อดื่มจนเมามาย ทั้งที่จัดอยู่ในประเภทยาแผนโบราณ ยันขายในร้านของชำไม่ได้ ผิดกฎหมาย ที่สุดมีมติ จัดชุดตรวจห้ามขายในร้านของชำ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจในวงกว้าง

จากกรณีที่มีเด็กวัยรุ่นและพระภิกษุในเขตอำเภอศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ได้ซื้อเครื่องดื่มซึ่งเป็นยาบำรุงกำลังยี่ห้อหนึ่งที่วางขายทั่วไปในร้านขายของชำ ซึ่งหลังจากดื่มเข้าไปในปริมาณมาก จะทำให้มีอาการมึนเมา เนื่องจากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จนชาวบ้านได้เข้าร้องเรียนกับหน่วยงานภาครัฐให้เข้าแก้ไขปัญหา

ล่าสุดวันนี้ (7ส.ค.58) ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงพยาบาลศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พ.ญ.ดวงสุดา ดาวเศรษฐ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ชัยชนะกุล รอง ผกก.ปป.สภ.ศรีบุญเรือง นายประสิทธิ์ มหาวงศ์ ปลัดอำเภอศรีบุญเรือง ภญ.วรางคณา หาระคุณโน หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สนง.สาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนแปลงประเภทของยาบำรุงร่างกายยี่ห้อหนึ่ง ที่มีผู้นำมาใช้บริโภคผิดประเภท จนเกิดอาการมึนเมา

โดยเนื้อหาการประชุม ได้ร่วมกันวางแผนออกตรวจการจำหน่ายยาในร้านขายของชำ เพื่อเฝ้าระวังการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตในร้านขายของชำ โดยยาบำรุงร่างกายดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงประเภทของยา จากเดิมที่ขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้านและวางขายในร้านขายของชำได้ แต่จากนี้ไปยาบำรุงร่ายกายดังกล่าวที่ผลิตหลังวันที่ 17 พ.ค. 2558 เป็นต้นไป ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณแล้ว จึงสามารถขายได้ในเฉพาะร้านขายยาแผนโบราณ และร้านขายยาแผนปัจจุบันเท่านั้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หยิบยก ยาบำรุงร่างกายยี่ห้อเป็นที่รู้จักดีในตลาด ซึ่งมีลักษณะเหมือนเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ขนาด 150 ซี.ซี. ราคาขวดละ 25 บาท ทั้งฉลากข้างขวด ยังพบคำเตือนสีแดง แต่หากไม่สังเกตก็แทบจะไม่เห็นคำเตือนว่า “ยานี้มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน” และมีตัวหนังสือเอกสารกำกับยาที่พอจะอ่านได้เป็นตัวหนังสือสีขาว ระบุส่วนประกอบตัวยาสมุนไพร เช่น ม้ากระทืบโรง กำลังเสือโคร่ง กระชายดำ โด่ไม่รู้ล้ม สรรพคุณ บำรุงร่างกาย รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า-เย็น เป็นต้น

นอกจากนี้ การวางขายยาบำรุงกายดังกล่าว มักจะวางขายทั่วไปตามร้านที่มีตู้แช่ ซึ่งปัญหาคือ หากเด็กและเยาวชน หรือแม้กระทั่งพระภิกษุสงฆ์ที่ซื้อดื่มโดยไม่อ่านฉลาก และเมื่อดื่มในปริมาณมาก หรือตั้งใจดื่มเกินกำหนด จะทำให้มีอาการมึนเมาเหมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป โดยผลสรุปในที่ประชุมมีมติว่า ให้ประชาสัมพันธ์แจ้งให้ร้านขายของชำรับทราบ และห้ามจำหน่ายภายใน 15 วัน หากยังวางขายอยู่ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ชัยชนะกูล รอง ผกก.ปป.สภ.ศรีบุญเรือง กล่าวว่า การจำหน่ายยาบำรุงร่างกายยี่ห้อดังกล่าว ซึ่งเป็นยาแผนโบราณในร้านชำ เป็นการจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 46 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำ หรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งยาแผนโบราณ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาต และมีโทษตาม มาตรา 111 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 46 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินห้าพันบาท ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็น แต่ไม่รู้จะจับกุมอย่างไร ยกเว้นพระภิกษุ หากมีอาการมึนเมา จะนำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ หากพบจะนำตัวไปสึก

ภายหลังประชุมเสร็จได้ออกสุ่มตรวจตามร้านค้าต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลโนนสูงเปลือย พบว่ามีหลายร้านที่มียาบำรุงร่างกายยี่ห้อนี้จำหน่าย ซึ่งทุกร้านจะบอกว่าไม่ทราบว่าขายไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาเครื่องดื่มชนิดนี้มียอดขายสูงมาก เห็นซื้อดื่มกันทั่วไปนึกว่าไม่เป็นอะไร ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ถือโอกาสแจ้งประชาสัมพันธ์เรื่องเปลี่ยนแปลงการวางขาย ทั้งขอความร่วมมือทุกหน่วยงานร่วมประชาสัมพันธ์และเฝ้าระวังการขายยาบำรุงร่างกายยี่ห้อนี้