พิจิตร - “คลองบ้านไร่” เมืองชาละวัน หมดสภาพคลองสวยน้ำใส ดำคล้ำสาย ปลาลอยคอตายทุกวัน ไม่เว้นเขตอภัยทานหน้าวัดหลวงพ่อขวัญ พระสงฆ์-คณะศรัทธาต้องถ่อเรือเก็บไปฝังทุกวัน รวมกว่า 2 ตันแล้ว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก่ด่วนก่อนตายเกลี้ยงคลอง
วันนี้ (7 ส.ค.) พระสงฆ์วัดบ้านไร่ และชาวบ้าน หมู่ที่ 10 ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร ต้องขึ้นเรือท้องแบนออกช้อนปลาขนาดใหญ่ที่ลอยตายจำนวนมากตลอดลำคลองบ้านไร่ ระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร เขตหมู่ที่ 10, 14 และหมู่ที่ 16 ต.สามง่าม โดยเฉพาะเขตอภัยทานบริเวณหน้าวัดเทพสิทธิการาม หรือวัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นจุดปล่อยและเลี้ยงพันธุ์ปลานานาชนิดแบบธรรมชาติหน้าวัด ตามโครงการอนุรักษ์วังปลาหน้าบ้าน และส่งเสริมให้เยาวชนมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์
ขณะที่สภาพน้ำในคลองดังกล่าวมีสีดำคล้ำ ส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตลอดลำคลองบ้านไร่ไม่สามารถนำน้ำในคลองมาอุปโภคได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ จ.พิจิตร มีฝนตกหนักหลายวันติดต่อกันจึงทำให้น้ำฝนชะล้างเอาสารเคมี รวมทั้งหญ้าเน่าในนาข้าวไหลสู่ลำคลองบ้านไร่ จนน้ำเน่าและปลาตายดังกล่าว
พระอนุรักษ์ ฐิตวฑโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพสิทธิการาม หรือวัดบ้านไร่ กล่าวว่า ขณะนี้พระสงฆ์ สามเณรวัดบ้านไร่เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากน้ำเน่าจนดำคล้ำ มีกลิ่นเหม็น โดยเฉพาะบริเวณหน้าวัดซึ่งเป็นเขตอภัยทาน ทำให้ปลาที่ชาวบ้านนำมาปล่อยไว้ และปลาที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ลอยคอตายเป็นจำนวนมากตลอดทั้งลำคลอง พระสงฆ์ สามเณรรวมถึงชาวบ้านต้องช่วยกันช้อนปลาที่ลอยตายไปฝังกลบทุกวัน รวมกว่า 2 ตันแล้ว เพื่อไม่ให้น้ำเน่าเหม็นไปมากกว่านี้ และหวังว่าจะไม่ให้ปลาตายเกลี้ยงคลอง
นางยุพา เรื่องลือ ชาวบ้านหมู่ที่ 10 ต.สามง่าม กล่าวว่า ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านเดือดร้อนหนักจากน้ำเน่ามีกลิ่นเหม็น เนื่องจากไม่สามารถสูบน้ำไปทำการเกษตรหรือนำไปใช้ไม่ได้เลย
ด้านนายอิทธิศักดิ์ พัฒน์พิบูล นายกอบต.สามง่าม กล่าวว่า ตอนนี้ได้ระดมใช้เครื่องปั่นน้ำ เพื่อเพิ่มออกซิเจน 3 จุด โดยเฉพาะบริเวณหน้าวัดบ้านไร่ เพื่อให้น้ำเน่าเสียน้อยลง อีกทั้งจะเร่งรื้อฝายกระสอบทรายปลายคลองออก เพื่อให้น้ำไหลไปตอนล่างลำคลอง เกิดการหมุนเวียน รวมทั้งส่งน้ำไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสาเหตุแล้ว สำหรับสาเหตุเนื่องจากปีนี้น้ำน้อยน้ำจึงไม่สามารถระบายได้เหมือนทุกปี โดยจะเร่งฟื้นฟูลำคลองเป็นการด่วน
