เชียงราย - จนท.ตาม 12 คนที่หลบหนีออกจากศูนย์ฯ ดูแลโรฮีนจาเชียงรายได้แล้ว สอบถามสาเหตุที่หนีเพราะรู้ข่าวบิดาที่พม่าเสียชีวิต อีกคนแฟนมีปัญหา เจ้าหน้าที่แจ้งขั้นตอนการดำเนินการ ชี้ไม่เกี่ยวที่เจ้าหน้าที่ของอเมริกาเข้ามาสอบปากคำแต่อย่างใด
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าจ ากกรณีมีชาวโรฮิงญา จำนวน 11 คน และชาวบังกลาเทศ จำนวน 1 คน รวมทั้งหมด 12 คน หลบหนีออกจากสถานที่พักพิงที่ทางประเทศไทยจัดเอาไว้ให้บริเวณศูนย์สงเคราะห์ชาวเขา ถนนสายแม่จัน-แม่สลอง ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เหตุเกิดเช้ามืดวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา และทางเจ้าหน้าที่สามารถนำกลับไปยังที่พักพิงได้เหมือนเดิมทั้งหมดนั้น
ล่าสุด บุคคลทั้งหมดได้รับการดูแลภายในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่สถานคุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายจากการค้ามนุษย์ จ.เชียงราย ด้วยดี และเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสอบถามถึงสาเหตุ รวมทั้งปลอบประโลมว่า สถานะของคนทั้งหมดเป็นผู้ที่จะได้รับการคุ้มครอง และไม่ใช่ผู้หลบหนีเข้าเมือง โดยทางการไทยก็กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาการจะเดินทางต่อไปของคนเหล่านี้อยู่
นายเจริญ อยู่คุ้มญาติ ผอ.สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จ.เชียงราย กล่าวว่า กรณีที่เกิดกับบุคคลทั้งหมดนั้นตนได้สอบถามข้อมูลทั้งหมดแล้วพบว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากการที่ชาวโรฮีนจาคนหนึ่งซึ่งมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในประเทศพม่า ได้ติดต่อกับญาติในประเทศพม่าแล้วทราบว่า บิดาเสียชีวิต
ส่วนอีกคนหนึ่งมีปัญหาเรื่องครอบครัวเกี่ยวกับแฟนสาวทำให้ไปชักชวนคนอื่นๆ ให้พากันออกจากศูนย์โดยหลายคนตามไปเพราะความสงสาร และเห็นใจคนที่ไปชักชวนเท่านั้น เมื่อได้โอกาสก็ออกจากที่พักพิงไปโดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
กระนั้นเนื่องจากไม่ใช่คนในพื้นที่ทำให้เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะไม่สามารถสื่อสาร หรือรู้จักเส้นทางจึงไปไหนได้ไม่ไกล ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถพากลับไปที่ศูนย์พักพิงได้เหมือนเดิมดังกล่าว ปัจจุบัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งถึงกระบวนการให้คนทั้งหมดได้รับทราบแล้ว
โดยกรณีชาวบังกลาเทศนั้น ได้มีการประสานไปยังสถานทูตประเทศบังกลาเทศประจำประเทศไทยแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติหากว่าเป็นจริงก็จะต้องรับเขากลับไปตามขั้นตอน ขณะที่ชาวโรฮีนจาานั้นเมื่อมีการรับมาตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.แล้ว ก็ได้ประสานไปยังประเทศต้นทางแต่ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนในประเทศนั้น ทำให้ทางองค์กรข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาก็พบว่า มีประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่จะรับไป
อย่างไรก็ตาม กรณีมีกระแสข่าวเรื่องทางประเทศสหรัฐฯ ได้เข้าไปสอบปากคำชาวโรฮีนจาจนเป็นเหตุให้หลบหนีนั้น ยังไม่ปรากฎฏวามชัดเจนในเรื่องนี้แต่อย่างใด โดยเป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น เพราะตนได้สอบถามจากบุคคลทั้งหมดแล้วก็ได้ความตามที่แจ้งแล้วดังกล่าว ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้ที่อยู่ในการดูแลของศูนย์ จำนวน 20 คน เป็นชาวโรฮีนจา จำนวน 17 คน และชาวบังกลาเทศ จำนวน 3 คน
