เพชรบุรี - ตำรวจ สภ.ท่ายาง รุดช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ชาวเมืองเพชรบุรี หลังถูกชายวัยรุ่นที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊กได้เพียง 2 วัน ล่อลวงมาจากบ้านในพื้นที่ตำบลไร่ใหม่พัฒนา อำเภอชะอำ
เมื่อวันนี้ (29 ก.ค.) ที่ สภ.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ร.ต.ท.ประศาสน์ บุญเจือ พงส.สภ.ท่ายาง ได้ทำการสอบถามข้อมูลจาก ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ขวบ ชาวโป่งเก้ง ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ สภ.ท่ายาง ได้เข้าช่วยเหลือ ด.ญ.เอ มาจากพื้นที่บ้านไสค้าน หมู่ 4 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.46 น.ที่ผ่านมา โดย ด.ญ.เอ ได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง 191 โดยแจ้งว่า ถูกวัยรุ่นชายที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊กได้เพียง 2 วัน ล่อลวงมาจากพื้นที่ อ.ชะอำ
จากการสอบถาม ด.ญ.เอ ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนที่ตนจะถูกล่อลวงมาได้รู้จักกับนายปราย อายุประมาณ 17 ปี ชาว อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ได้เพียง 2 วัน โดยรู้จัก และคุยกันผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยนายปราย ได้พูดคุย และชวนไปเที่ยว จนกระทั่งนัดกันในช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา นายปราย และเพื่อนชายอีก 1 คน ไปรับตนที่หน้าบ้านในพื้นที่บ้านโป่งเก้ง ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ โดยขี่รถจักรยานยนต์ไปรับ ส่วนนายปราย ได้ขี่รถไปส่งเพื่อนที่ไปด้วยกันในพื้นที่ อ.บ้านลาด
หลังจากนั้น ได้พาตนมาที่บ้านหลังหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นบ้านของเพื่อนนายปราย หลังจากนั้น ตนและนายปราย ได้เข้าไปหลับนอนภายในห้องโดยต่างคนต่างนอนไม่มีการล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด จนกระทั่งตื่นขึ้นมาช่วงเวลาประมาณ 04.30 น.ไม่พบเห็นนายปราย นอนอยู่ในห้อง ตนจึงรู้ว่าถูกหลอกมา จึงได้เดินออกมานอกบ้านหลังดังกล่าว และโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 เพราะตนไม่รู้ว่าอยู่พื้นที่ส่วนไหนของจังหวัดเพชรบุรี
อีกทั้งขณะโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือได้เดินไปยังบ้านที่เปิดไฟอยู่แล้วขอให้ชาวบ้านช่วยบอกเส้นทางต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถมาช่วยเหลือดังกล่าว
พ.ต.ท.ประสงค์ กุลจิตติปราณี รอง ผกก.สภ.ท่ายาง เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าวอยากฝากเตือนถึงผู้ปกครองให้ช่วยสอดส่องดูแลบุตรหลานให้มากขึ้น เพราะขณะนี้ภัยทางโลกของสื่อโซเชียลมีหลากหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับกรณีของ ด.ญ.เอ ที่ถูกล่อลวงมาจากการพูดคุยผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่ยังโชคดีที่ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น รวมถึงเด็กยังมีไหวพริบโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทัน โดยเบื้องต้น ได้ทำการลงบันทึกประจำวัน และส่งตัว ด.ญ.เอ ไปตรวจร่างกาย ซึ่งจะทราบผลอีก 1 สัปดาห์ พร้อมกับประสานผู้ปกครองเพื่อทราบแล้ว
