ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ชี้ เด็กอัดคลิปรับสมัครแฟนคลับ ขาดทักษะเข้าสังคม ไม่เข้าใจอัตลักษณ์ตัวเอง ย้ำยิ่งไม่มีความสามารถให้คนทั่วไปยอมรับ ยิ่งไม่เป็นผลดี เสี่ยงรับคำวิจารณ์รุนแรง เสียเวลาพัฒนาตัวเอง แนะพ่อแม่สอนการใช้สื่อออนไลน์ลูก
วันนี้ (11 พ.ค.) นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวถึงกรณีเด็กอัดคลิปวิดีโอลงเว็บไซต์ยูทิวบ์ เพื่อประกาศรับสมัครแฟนคลับ โดยมีการบอกชื่อที่อยู่อย่างชัดเจน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งบางส่วนพบการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงต่อเด็ก ว่า เรื่องนี้สะท้อนชัดว่าเด็กเหล่านี้ไม่รู้วิธีการสร้างการยอมรับและสร้างความสัมพันธ์กับสังคมภายนอก ซึ่งเกิดจากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่พาลูกเข้าสังคม หรือไม่ถ่ายทอดทักษะทางสังคมให้แก่ลูก นอกจากนี้ เด็กไม่เข้าใจอัตลักษณ์ของตัวเอง เพราะหากเป็นดาราเด็ก หรือนักร้องเด็ก การออกมาโพสต์พูดคุยกับแฟนคลับจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขามีจุดดี จุดเด่นของตัวเอง มีความสามารถเป็นที่ยอมรับ แต่การที่เป็นเด็กธรรมดาออกมาทำเช่นนี้จึงถือเป็นเรื่องแปลก จึงต้องทำให้เด็กเข้าใจ และยอมรับว่าการที่จะได้รับการยอมรับนับถือจากบุคคลทั่วไป จะต้องเกิดจากการกระทำที่น่าสรรเสริญ ยกย่อง ติดตาม ซึ่งหากเด็กเป็นคนที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับจริง ก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะในต่างประเทศก็มีเด็กจำนวนมากที่มีการโพสต์คลิปแสดงความสามารถของตัวเอง ทั้งร้องเพลง การแสดง เพื่อโฆษณาตัวเองเช่นกัน ก็เป็นโอกาสในการชักนำเข้าสู่วงการบันเทิง
“อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าการออกมาโพสต์คลิปลักษณะเช่นนี้ โดยเฉพาะเด็กทั่วไปที่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร แต่ออกมาโพสต์ขอให้ทุกคนมาเป็นแฟนคลับ ไม่เป็นผลดีและไม่คุ้มแม้แต่น้อย เพราะเท่ากับว่าเด็กคนนั้นกำลังเสียเวลาและทรัพยากรเพื่อที่จะพัฒนาตัวเอง และยังเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าถึงตัวตนของเราได้ง่าย อาจถูกล่อลวงหรือล่วงละเมิดทางเพศได้” นายสรรพสิทธิ์ กล่าวและว่า สำหรับการแสดงความเห็นเชิงลบต่อคลิปวิดีโอของเด็กนั้น คงไม่สามารถห้ามอะไรได้ ซึ่งสิทธิในการโพสต์นั้นความจริงเด็กสามารถทำได้ แต่หากคนเสพสื่อไม่ชอบใจก็อาจข้ามไปไม่ต้องดู ไม่ต้องวิจารณ์ก็ได้ อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองต้องสอนและให้คำแนะนำในการใช้อินเทอร์เน็ต การใช้สื่อสังคมออนไลน์แก่เด็กด้วย เพราะการแสดงตัวในที่สาธารณะเช่นนี้ ก็เหมือนแต่งตัวออกไปแสดงให้คนภายนอกดู ซึ่งมีทั้งคนที่ชอบมามุงดู หรือมาด่าว่าทำอะไรบ้าบอ ก็ต้องทำให้เด็กได้เรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้ด้วย
นายสรรพสิทธิ์ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญเด็กธรรมดาที่ไม่มีความสามารถพิเศษการโพสต์คลิปเช่นนี้เขาจะเป็นผู้รับคำวิจารณ์ต่างๆ และเป็นผู้สื่อสารกับคนที่เข้ามาดู เข้ามาคอมเมนต์โดยตรง ซึ่งต่างจากดาราเด็ก นักร้องเด็กที่ไม่ว่าจะไปไหนก็จะมีผู้จัดการส่วนตัว การโพสต์อะไรต่างๆ ในโลกออนไลน์ก็มีผู้ดูแลกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง ไม่ได้เป็นผู้สื่อสารโดยตรง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
