ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะประสานและติดตามการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสังคมและชายหาดในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการทำงาน เมืองพัทยา เผยจัดระเบียบร่มเตียงชายหาดไปได้สวย
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 95/2558 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานประสานและติดตามการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสังคมและชายหาดในเขตเมืองพัทยาของจังหวัดชลบุรี เพื่อทำหน้าที่ในการติดตามและสนับสนุนการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหากลุ่มผู้มีอิทธิพล การจัดระเบียบชายหาด ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติด ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กและเยาวชนทั้งหญิงและชาย รวมทั้งการทำผิดกฎหมายอื่นๆ อันมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและสังคมอันดีงาม ในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี นั้น
ล่าสุด พล.ต.ท.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะประสานและติดตามการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสังคมและชายหาดในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และคณะเดินทางมาติดตามการทำงานดังกล่าวที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมี นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา รวมถึงข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมให้การต้อนรับ
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่าการทำงานจัดระเบียบชายหาดพัทยาเพื่อคืนพื้นที่สาธารณะนั้นเป็นไปตามนโยบายของ คสช. เป็นนโยบายสำคัญของภาครัฐในการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวสู่ความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการจัดระเบียบชายหาดพัทยาและจอมเทียนอย่างจริงจัง จนในที่สุดในส่วนของชายหาดพัทยาสามารถคืนพื้นที่สาธารณะได้ถึง 60.23% ส่วนหาดจอมเทียนได้ 58.06% พร้อมกำหนดหยุดการประกอบการในทุกวันพุธของสัปดาห์
รวมทั้งยังดำเนินการในเรื่องของการจัดระเบียบทางเดินเท้าที่สาธารณะทั่วเมืองพัทยาอย่างเป็นรูปธรรมสอดคล้องนโยบายของรัฐ และสร้างแรงดึงดูดต่อการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขณะที่ในส่วนของการรื้อถอนสิ่งรุกล้ำคลองสาธารณะพัทยาใต้นั้น ก็สามารถดำเนินการได้จนเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งต้องขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกันดำเนินการจนมีผลลุล่วงสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จากนั้นคณะได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่จริงตามลำดับต่อไป


ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 95/2558 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานประสานและติดตามการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสังคมและชายหาดในเขตเมืองพัทยาของจังหวัดชลบุรี เพื่อทำหน้าที่ในการติดตามและสนับสนุนการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหากลุ่มผู้มีอิทธิพล การจัดระเบียบชายหาด ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติด ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กและเยาวชนทั้งหญิงและชาย รวมทั้งการทำผิดกฎหมายอื่นๆ อันมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและสังคมอันดีงาม ในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี นั้น
ล่าสุด พล.ต.ท.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะประสานและติดตามการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสังคมและชายหาดในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และคณะเดินทางมาติดตามการทำงานดังกล่าวที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมี นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา รวมถึงข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมให้การต้อนรับ
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่าการทำงานจัดระเบียบชายหาดพัทยาเพื่อคืนพื้นที่สาธารณะนั้นเป็นไปตามนโยบายของ คสช. เป็นนโยบายสำคัญของภาครัฐในการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวสู่ความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการจัดระเบียบชายหาดพัทยาและจอมเทียนอย่างจริงจัง จนในที่สุดในส่วนของชายหาดพัทยาสามารถคืนพื้นที่สาธารณะได้ถึง 60.23% ส่วนหาดจอมเทียนได้ 58.06% พร้อมกำหนดหยุดการประกอบการในทุกวันพุธของสัปดาห์
รวมทั้งยังดำเนินการในเรื่องของการจัดระเบียบทางเดินเท้าที่สาธารณะทั่วเมืองพัทยาอย่างเป็นรูปธรรมสอดคล้องนโยบายของรัฐ และสร้างแรงดึงดูดต่อการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ขณะที่ในส่วนของการรื้อถอนสิ่งรุกล้ำคลองสาธารณะพัทยาใต้นั้น ก็สามารถดำเนินการได้จนเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งต้องขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมกันดำเนินการจนมีผลลุล่วงสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จากนั้นคณะได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่จริงตามลำดับต่อไป