ศูนย์ข่าวศรีราชา - 101 รายได้ลุ้น! หลังมหาดไทยลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหา เปิดช่องทางออกให้ท้องถิ่นเสนอแผนปรับสภาพทำกินใหม่รัฐ ราษฎรได้ประโยชน์ร่วม นายกพัทยาเผยเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เตรียมชงเรื่องกลางเดือนกรกฎาคมนี้
พล.ต.ท.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะทำงานประสานและติดตามการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสังคมและชายหาดเมืองพัทยา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธารา ปุณศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่ากากระทรวงมหาดไทย และคณะเดินทางมายังเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคณะทำงานประสานและติดตามการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสังคมและชายหาดในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รวม 7 ด้าน
ได้แก่ ปัญหาชายหาด ปัญหาสังคมสถานบริการ ปัญหาด้านการค้ามนุษย์ ปัญหาด้านความปลอดภัย ปัญหาเรื่องกลุ่มผู้มีอิทธิพล ปัญหาเรื่องของอาคารที่มีการก่อสร้างรุกล้ำและผิดกฎหมาย และปัญหาการจราจร โดยมีตัวแทนจากจังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้นำเสนอรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องของการจัดระเบียบชายหาด การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองพัทยาใต้ โครงการคอนโดมิเนียมอาคารชุดวอเตอร์ฟร้อนท์พัทยา การรื้อถอนอาคารบูติกโฮเทล การจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ และการจัดระเบียบการจราจร รวมไปถึงกรณีประเด็นของอาคาร 101 รายพัทยาใต้ ที่คณะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
โดย นายอิทธิพล ระบุว่า สำหรับพื้นที่อาคารในโครงการวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติให้ทำการรื้อถอนอาคาร จำนวน 101 รายออกจากพื้นที่ ตามความเห็นของคณะกรรม การสิ่งแวดล้อมในปี 2541 แต่ด้วยพื้นที่ของโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเมืองพัทยาที่อยู่คู่กันมาเป็นเวลานาน จึงมีแนวคิดในการพัฒนาปรับปรุงเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น กระทั่งมีการกำหนดให้เป็นถนนคนเดิน หรือ Walking Street ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม จากมติของ ครม.ที่มีความเห็นไว้นั้นปัจจุบันยังคงถือเป็นกรณีที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการดำเนินการไปในทิศทางใด เนื่องจากพบว่าอาคารบางส่วนรวม จำนวน 19 แปลง ในกลุ่มอาคาร 101 รายนี้ มีเอกสารสิทธิครอบครองอย่างถูกต้อง
โดยแยกออกเป็นโฉนด จำนวน 14 แปลง และ ส.ค.1 อีก 5 แปลง จึงมีหนังสือสอบถามถึงสำนักงานโยธาธิการจังหวัดชลบุรี เพื่อสอบถามความชัดเจนเกี่ยวกับการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ในปี 2555 ได้มีการร้องเรียนเกี่ยว กับปัญหาการบุกรุกลำน้ำ และการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงมีการเข้าไปตรวจสอบกระทั่งพบว่า มีการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร จำนวน 12 ราย และการกระทำผิดเกี่ยวกับการล่วงล้ำลำน้ำอีก 9 ราย ซึ่งปัจจุบันเมืองพัทยา และสำนักงานเจ้าท่าได้นำเรื่องแจ้งดำเนินคดีไปแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ธารา ปุณศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่ากากระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เรื่องความผิดที่เกิดขึ้นจากการกระทำผิดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะการบุกรุก และเรื่องของอาคารนั้นคงเป็นเรื่องยกเว้นไม่ได้ และคงต้องดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อให้เป็นไปตามกลไกที่กำหนด อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่อาคาร 101 รายพัทยาใต้นั้น คงจะไม่ได้เสนอให้มีการทบทวนมติ ครม. แต่เมื่อท้องถิ่นมองเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์ และเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ขณะที่ผู้ประกอบการทั้งหมดต่างๆ ก็แสดงความคิดเห็นที่จะให้ความร่วมมือต่อภาครัฐอย่างเต็มที่
เช่น การรื้อถอนอาคารในส่วนที่มีการต่อเติม หรือการกำหนดกรอบในการเช่าพื้นที่จากการจัดหาประโยชน์ของรัฐ โดยมีการปรับสภาพภูมิทัศน์ใหม่เพื่อให้เกิดความสวยงามเป็นระเบียบ และลดปัญหาการรุกล้ำลำน้ำ หรือการก่อสร้างต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และอาจจะมีการหยิบยกเข้ามาพิจารณาถึงความเหมาะสมได้ ซึ่งช่วงเวลานี้ทางเมืองพัทยาเองก็ควรจัดเสนอข้อมูลถึงผลดี-ผลเสีย รวมทั้งโครงการในการพัฒนา ปรับปรุงพื้นที่ในภาพรวมไปยังคณะทำงานโดยเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางออกที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายต่อไป