มท.จี้กรมที่ดินรื้อเอกสารสิทธิคอนโดฯ ยักษ์เจ้าปัญหา

ศูนย์ข่าวศรีราชา - มหาดไทย จี้ปัญหาคอนโดฯ ยักษ์เจ้าปัญหาหน้าหาดพัทยา พร้อมสั่งการกรมที่ดินรื้อที่มาของการออกเอกสารสิทธิครอบครอง ระบุหากพบกระทำการโดยมิชอบ พร้อมดำเนินการเฉียบขาดหลังปัญหาเรื้อรังมานาน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้รายงานผลความคืบหน้าเกี่ยวกับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการก่อสร้างโครงการ WaterFront Condominium ริมหาดท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ต่อคณะทำงานประสานและติดตามการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสังคม และชายหาดในเขตเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งนำโดย พล.ต.ท.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.ต.ธารา ปุณศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มาติดตามปัญหาความคืบหน้าเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการ WaterFront Condominium หลังได้รับการร้องเรียนผ่านหลายช่องทางจากประชาชน องค์กรต่างๆ และกลุ่ม NGO ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรีว่า

สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนโฉนดที่ดินในพื้นที่รวม 2-1-83 ไร่ โดยมี บ.บาลีฮาย เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ โดยมีแบบก่อสร้างอาคาร คสล.ขนาด 52 ชั้น รวม 315 ห้อง ซึ่งได้มาทำการขออนุญาตก่อสร้างหลังมีความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมในปี 2551 อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคมปี 2557 เมืองพัทยาได้เข้าทำการตรวจสอบจนพบว่า ทางโครงการได้มีการก่อสร้างดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ออกคำสั่งให้ระงับไว้ พร้อมแจ้งให้ทางโครงการเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเพื่อความรับความเห็นชอบอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา

ทางด้าน นายเชาวลิตร แสงอุทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ที่ดินแปลงนี้เป็นโฉนดที่มีการออกอย่างถูกต้อง แต่จากการตรวจสอบพบว่า เป็นที่ดินเดิมที่อยู่ในแปลง น.ส.3 เลขที่ 93 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ของ นายสัมฤทธิ์ ศิลปะมงคล ที่แจ้งการครอบครองทำประโยชน์มาตั้งแต่ปี 2476 และมาแจ้งร้องขอออกเอกสารสิทธิในปี 2498 ก่อนจะแบ่งแยกที่ดินออกเป็น 5 แปลง โดยมี 2 แปลงที่ขายให้แก่ บ.อาชาแลนด์ จำกัด ขณะที่เหลือแบ่งขายให้แก่ทางภาคเอกชนก่อนจะมาก่อสร้างเป็นคอนโดฯ ดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาว่า การออกโฉนดในที่ดินข้างเคียงของ บ.อาชาแลนด์ ในพื้นที่ 3 ไร่ 91 ตารางวา ว่า เป็นการออกโฉนดในที่สาธารณประโยชน์ หรือสงวนหวงห้าม เนื่องจากข้อเท็จจริงจากผลการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศในช่วงปี 2596 ถึงปี 2539 พบว่า มีลักษณะเป็นพื้นที่ป่าไม้ หาดทราย และชายทะเล โดยไม่พบร่องรอยของการทำประโยชน์แต่อย่างใด โดยมีคำพิพากษาดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดหลายราย จากนั้นจึงมีการยื่นขออุทธรณ์แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ก่อนจะมีการยื่นต่อศาลฎีกา ในปัจจุบันซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา จึงเป็นเรื่องที่กำลังตรวจสอบความเป็นมาของการออกเอกสารสิทธิในแปลงดังกล่าวว่าถูกต้องหรือไม่

ทางด้าน พล.ต.ต.ธรา ปุณศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรณีของโครงการ WaterFront Condominium ถือเป็นโครงการที่มีปัญหาการร้องเรียนมากมายไปยังหน่วยงานของภาครัฐ จึงมีการติดตาม และตรวจสอบอย่างใกล้ชิด กระทั่งเป็นที่มาของการเดินทางมาตรวจสอบในครั้งนี้ และจะมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่นั้นคงมีเรื่องต้องตรวจสอบเกี่ยวกับแนวระยะร่นจากระดับน้ำทะเล 100 เมตร เนื่องจากอาคารดังกล่าวแต่เดิมอยู่บนที่ดินที่มีแนวติดกับทะเล เพียงแต่มีการถมดินทำท่าเรือเทียบเรือของกรมโยธิการธิการ ที่ส่งมอบให้เมืองพัทยา ไปตั้งแต่ปี 2546 จึงทำให้ระดับน้ำห่างออกไปเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ขณะที่ประเด็นหลักคงเป็นกรณีของเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดินว่าได้มาอย่างไร และเอกสารสิทธิดังกล่าวมีการออกมาโดยมิชอบหรือไม่ เนื่องจากที่ดินข้างเคียงที่ศาลมีคำพิพากษาว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นที่สาธารณะ และมีการดำเนินคดีไปนั้น รวมทั้งกรณีคำสั่งให้มีการเพิกถอนโฉนดก็ถือว่าเป็นแปลงเดียวกันแต่เดิมกับโครงการ ซึ่งจากนี้จะนำเรื่องกลับไปเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสั่งการไปยังกรมที่ดิน เพื่อให้ทำการตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ลุล่วงโดยเร็ว โดยหากพบว่าเป็นเรื่องที่กระทำการโดยมิชอบก็ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด และต้องแล้วเสร็จในยุคสมัยนี้อย่างแน่นอน