xs
xsm
sm
md
lg

ภาค 4 รื้อคดี! ผู้บริหารโรงน้ำตาลผูกคอตาย 2 ปีก่อน เชื่อฆาตกรรมอำพราง (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

 พล.ต.ต.จตุพล  ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภาค 4 รื้อคดีเมื่อ 2 ปีก่อนหลังญาติร้องขอความเป็นธรรม กรณีอดีตรองกรรมการผู้จัดการโรงงานน้ำตาลมิตรภูเวียงผูกคอตายในบ้าน แต่ผลพิสูจน์ทางการแพทย์พบมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งกลางศีรษะ ชี้หลักฐานชัดเจนเป็นฆาตกรรมอำพราง ตั้งชุดสืบสวนเริ่มนับหนึ่งใหม่ตามหาคนร้าย


ก่อนเที่ยงวันนี้ (28 ก.ค.) ที่ บก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 เป็นประธานประชุม ร่วมด้วย พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4

ทั้งนี้ เพื่อรื้อฟื้นคดีกรณีอดีตรองกรรมการผู้จัดการโรงงานน้ำตาลมิตรภูเวียงผูกคอตายในบ้าน แต่พบมีบาดแผลถูกของแข็งกลางศีรษะ เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนใหม่ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นฆาตกรรมอำพราง

สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อบ่ายวันที่ 28 ก.ค. 2556 พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายในบ้านจัดสรรสายฝน 2 เลขที่ 555/205 หมู่ 2 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านหลังเดี่ยว 2 ชั้น หน้าประตูทางเข้าบ้านมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ชว 1620 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ และประตูบ้านปิดล็อก

เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันงัดลูกบิดประตูบ้านออก ตรวจสอบภายในบ้านพบกองเลือดนองพื้นทางขึ้นบันไดบ้าน และตรงบันไดบ้านชั้นที่เชื่อมต่อทางขึ้นบันไดชั้นที่สองพบศพ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุวัฒน์ มงคลสินธุ์ (แดง) อายุ 68 ปี อดีตรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด สาขามิตรภูเวียง และเป็นที่ปรึกษาบริษัทฯ

สภาพศพผูกคอตายห้อยโตงเตงอยู่ในชุดนอนสีขาวคาดฟ้าคอ ลิ้นจุกปาก ตาเหลือก มีผ้าขาวม้าสองผืนมัดต่อกันผูกที่ลำคอผู้ตาย

นอกจากนี้ยังพบบาดแผลคล้ายถูกตีที่กลางศีรษะ และมีรอยเลือดเป็นทางไปที่ทางขึ้นบันไดชั้น 1 ลักษณะมีคนมากกว่า 1 คนลากขึ้นบันได ส่วนในห้องต่างๆ อยู่ในสภาพเดิม โดยในบ้านไม่มีการถูกรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ตายเป็นคนที่แข็งแรงมากชอบออกกำลังกายเสมอ ไม่มีโรคประจำตัว และได้พบหลักฐานเขียนร่างพินัยกรรมก่อนตายว่า ขอมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับ “นายพงษ์ศักดิ์” คนใกล้ชิด และยังพบซองยาหลายซองสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ และโรคความดันสูง

แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นระบุว่า นายสุวัฒน์เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ จึงสันนิษฐานว่าผู้ตายผูกคอตัวเองตายในบ้าน โดยไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการฆาตกรรม ซึ่งทางญาติและผู้ใกล้ชิดไม่ติดใจในการตายของนายสุวัฒน์

พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ศพนายสุวัฒน์ที่พบเห็นว่ามีการผูกคอตาย และพบกองเลือดอยู่ในบ้าน และยังพบบาดแผลที่กลางศีรษะที่เป็นบาดแผลถูกทุบหรือตีด้วยของแข็งจนเป็นแผลเปิดกว้าง ขั้นตอนการตรวจสอบที่เกิดเหตุคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเป็นการฆาตกรรมอำพรางโดยใช้ของแข็งทุบตีแล้วลากมาผูกคอตายตรงราวบันได ทำให้น่าเชื่อว่านายสุวัฒน์มาผูกคอตนเองตายเพราะโรคเครียด

คดีนี้ในตอนแรกมีความเชื่อว่าผู้ตายมีโรคเครียดจนต้องอาศัยยาคลายเครียดมาผูกคอตายตามที่เป็นข่าวในช่วงนั้น เมื่อผลเป็นทางการของแพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ศพหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และผลชันสูตรพลิกศพจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ยืนยันการตายที่แท้จริงว่าเกิดขึ้นจากมีคนทำให้ตาย ซึ่งเชื่อว่ามีผู้อื่นทำให้ตายมากกว่าจะเป็นการผูกคอตัวเองตายในบ้าน

พล.ต.ต.จตุพลระบุอีกว่า จากการสอบสวนที่ผ่านมาไม่พบพิรุธหรือเงื่อนงำที่นำไปสู่คดีฆาตกรรมโดยตรง เพราะทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เชื่อว่ามาจากโรคเครียดจนเป็นสาเหตุให้นายสุวัฒน์ผูกคอตัวเองตาย แต่เมื่อญาติมาร้องทุกข์ต่อ ผบช.ภ.4 จึงต้องมาตรวจสอบผลพิสูจน์ทางการแพทย์ และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่นได้บ่งชี้ว่ามีผู้อื่นทำให้ตาย เพราะศพที่ผูกคอตายมีแผลที่เกิดขึ้นกับศพ และมีร่องรอยเลือดอยู่ในจุดเกิดเหตุ เป็นหลักฐานที่เกิดขึ้นชี้ชัดว่าผู้ตายไม่น่าจะทำด้วยตัวเอง

โดยเฉพาะในการผูกคอตายเชื่อว่ามีคนอื่นทำให้ตายมากกว่า จึงต้องนำสำนวนนี้มารื้อคดีแม้ว่าผ่านมา 2 ปีแล้วก็ตาม ดังนั้น ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 ร่วมกับสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น จะต้องนับหนึ่งใหม่เช่นกันในการออกสืบสวนตามพยานหลักฐานที่มีอยู่เพื่อจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว โดยตั้งประเด็นสืบสวนเรื่องปัญหาเครียดของครอบครัวผู้ตายเอง และประเด็นที่สอง ประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตาย

กำลังโหลดความคิดเห็น