รวบหนุ่มบุรีรัมย์ชิงเงิน-สร้อยคอป้าของเพื่อน อ้างหาเงินแต่งงาน

บุรีรัมย์-ตำรวจเมืองบุรีรัมย์ จับโจรแสบเพื่อนหลานชาย อาศัยช่วงป้าวัย 63 ปี เปิดร้านขายของชำอยู่ลำพัง บุกเข้าล็อกคอ ลงมือชิงทรัพย์เป็นเงินสด 8,000 บาท สร้อยคอทองคำพร้อมจี้ และรถจักรยานยนต์ขับขี่หลบหนี สุดท้ายไม่รอดถูก ตร.ตามรวบได้พร้อมของกลาง อ้างหาเงินไปแต่งงานกับแฟนสาว

วันนี้ (24ก.ค.58) พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมพ.ต.ท.กัมพล วงษ์สงวน รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิตร สว.สส.ร.ต.อ.ราชศักดิ์ เชียรรัมย์ รอง สวป. และตำรวจชุดสืบสวน
สภ.เมืองบุรีรัมย์ ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชิงทรัพย์ หลังตำรวจชุดสืบ สภ.เมือง ได้จับกุมนายสุรเชษฐ์ หรือแม็ก ธรรมวิเศษ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 13 บ้านยายอ่อน ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาชิงทรัพย์

พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกู๊บปี้ ไอ สีแดง ทะเบียน 1 กง-3039 บุรีรัมย์ สร้อยคอทองคำพร้อมจี้ทองคำ 1 เส้น เงินสด 8,000 บาท หมวกกันน็อค สีดำ 1 ใบ หมวกไหมพรมสีดำ 1 ใบ อุปกรณ์ส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ หลังจากนายสุรเชษฐ์ ได้ก่อเหตุใช้กำลังบังคับทำร้ายและชิงเอาทรัพย์ของนางสุณี หรือป้าน้อย อาจทวีกุลวงศ์ อายุ 63 ปี ซึ่งเปิดร้านค้าขายของชำ อยู่ที่บ้านฟันปลา ต.ชุมเห็ด อ.เมือง ก่อนขับรถหลบหนีไป

จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุเคยมาบ้านของนางสุณี หลายครั้ง เนื่องจากเป็นเพื่อนของหลานชาย ซึ่งหลังก่อเหตุนายสุรเชษฐ์ ได้เข้าไปหลบซ่อนอยู่ในบ้านแฟนเก่า ที่ชุมชนวัดอิสาณ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กระทั่งตำรวจสืบทราบ จึงติดตามไปจับกุมตัวนายสุรเชษฐ์ ได้พร้อมของกลาง และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์

สอบถามนายสุรเชษฐ์ รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินออกจากบ้านพักตัวเอง ไปยังร้านขายของชำของป้าน้อยในหมู่บ้านฟันปลา ซึ่งเป็นบ้านป้าของเพื่อนชื่อเอ๋ ที่เคยเข้ามาเล่นอยู่หลายครั้ง โดยได้เอาหมวกกันน็อกสีดำถือติดตัวไปด้วย เมื่อไปถึงได้นั่งอยู่หน้าร้านขายของชำ สักพักจึงเปลี่ยนไปนั่งอยู่ด้านหลังร้าน โดยใช้เวลานั่งอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสังเกตเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในร้าน มีเพียงป้าน้อยเจ้าของร้านเพียงคนดียว

จึงเดินเข้าไปหาป้าน้อยในห้องและพูดบังคับป้าน้อยให้อยู่เฉยๆ แต่ป้าน้อยร้องตะโกนเสียงดังให้คนช่วย จึงใช้แขนขวาล็อกคอป้าน้อย แต่ป้าน้อยยังดิ้นต่อสู้จึงรัดคอแรงขึ้น พร้อมบอกให้ส่งทรัพย์สินให้ ซึ่งป้าน้อยได้ยื่นเงินมาให้จำนวนหนึ่ง จึงคลายข้อศอกออกจากคอป้าน้อย แต่ป้าน้อยกลับพูดออกมาว่า กูจำหน้ามึงได้ กูรู้ว่ามึงเป็นใคร

จึงคว้าเอาสายไฟจากเครื่องคอมพิวเตอร์ใกล้มือมาพันรอบคอป้าน้อย พร้อมดึงรัดคออย่างแรงจนป้าน้อยทรุดตัวหมดสติฟุบลงกับพื้น ก่อนล้วงเอาทรัพย์สินจากกระเป๋าเสื้อกันเปื้อน และรีบออกจากห้องมาพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีแดง จอดอยู่ที่โรงจอดรถภายในร้านชำ โดยมีกุญแจรถเสียบอยู่ จึงสตาร์ทเครื่องขับ จยย.หลบหนีไปตามถนนสายบุรีรัมย์ - สตึก จากนั้นใช้ไขควงหมุนเอาป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์และกระจกส่องหลังรถคันดังกล่าวไปโยนทิ้งในป่าละเมาะ ก่อนจะไปหลบซ่อนอยู่บ้านแฟนเก่า และถูกตำรวจตามรวบตัวได้ดังกล่าว

ทั้งนี้นายสุรเชษฐ์ ยังอ้างว่า สาเหตุที่ก่อเหตุชิงทรัพย์เนื่องจากต้องการหาเงินไปแต่งงานกับแฟนสาว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายสุรเชษฐ์ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”