xs
xsm
sm
md
lg

บสย.ชลบุรี ฟุ้งครึ่งปี 58 อนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ “เอสเอ็มอี” แล้ว 3.5 พันล้าน(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้ค้ารายย่อย ,โอทอป และผู้ค้าตลาดนั้นมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดย บสย.มากยิ่งขึ้น
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ภาวะเศรษฐกิจไม่กระทบต่อการขยายตัวทางธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ “เอสเอ็มอี” ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดย ผอ.บสย.สาขาชลบุรี ฟุ้งครึ่งปีแรก 58 สามารถอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ “เอสเอ็มอี” ในพื้นที่ได้แล้วถึง 3.5 พันล้านบาท จากเป้าหมายที่กระทรวงการคลังตั้งไว้ตลอดทั้งปีที่ 6.7 พันล้านบาท เชื่อเมื่อถึงสิ้นปีทะลุเป้าแน่นอน


นายกฤต สมมาศเดชสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสาขาชลบุรี บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.เผยถึงการดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ที่หลักประกันไม่พอ หรือไม่มีหลักประกันในการค้ำประกันสินเชื่อต่อสถาบันการเงินในพื้นที่ภาคตะวันออก ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ว่า

นับตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงวันที่ 31 มิถุนายน 2558 สำนักงานสาขาชลบุรี สามารถอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อได้แล้วถึง 3.5 พันล้านบาท หรือประมาณ 52% ของเป้าหมายที่กำหนดไว้ ขณะที่สำนักงาน บสย.ทั่วประเทศ สามารถค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการได้แล้ว 4.2 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายรวมที่ตั้งไว้ที่ 8 หมื่นล้านบาท

“ถือได้ว่า บสย.สามารถค้ำประกันสินเชื่อโดยรวมทั่วประเทศได้แล้วเกิน 50% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่ในส่วนภาคตะวันออก ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เราสามารถอนุมัติวงเงินค้ำประกันได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 900 ล้านบาท จึงเห็นได้ว่าความจำเป็นในการใช้วงเงินกู้ สำหรับขยายธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยังคงมีอยู่ และการที่วงเงินค้ำประกันสินเชื่อเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 33-34% ก็แสดงให้เห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจทั้งของไทยและต่างประเทศที่ซบเซาไม่มีส่วนในการตัดสินใจปล่อยสินเชื่อของแบงก์พาณิชย์ที่ยังคงดำเนินไปตามปกติ”

นายกฤต ยังเผยอีกว่า จังหวัดชลบุรี ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการขยายการลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอีมากที่สุด โดยมีการค้ำประกันสินเชื่อในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 ไปแล้ว 1.2 พันล้านบาท หรือเกือบ 50% ของยอดค้ำประกันสินเชื่อที่ตั้งไว้ในภาคตะวันออก ทั้งนี้ เป็นเพราะจากศักยภาพที่มีทั้งภาคอุตสาหกรรม ท่าเรือน้ำลึก ภาคการขนส่ง และการท่องเที่ยว

ส่วนภาคธุรกิจที่มีการค้ำประกันสินเชื่อมากสุด คือ ธุรกิจค้าปลีกและส่ง รวมถึงตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่ยอดการเติบโตเป็นอันดับ 1 ของยอดการค้ำประกันที่ บสย.ให้การสนับสนุน รองลงมาคือภาคการผลิตและภาคบริการ รองลงมาคือ ระยอง ที่มีการขยายตัวในภาคการผลิตและการค้า ด้านจังหวัดฉะเชิงเทรา เติบโตในแง่ของภาคการผลิต

การขยายตัวทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกยังคงไปได้แม้ภาพรวมทั่วประเทศจะซบเซา เห็นได้จากยอดค้ำประกันที่แบงก์พาณิชย์ส่งมาขอให้ บสย.อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ ที่มีการทยอยส่งเข้ามาเฉลี่ย 500-600 ล้านบาทต่อเดือน และยังคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปี บสย.สาขาชลบุรี น่าจะอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อได้มากถึง 7 พันล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้ยอดค้ำประกันเกินเป้าถึง 52-53% แล้ว

ปัจจัยที่ทำให้นักลงุทนเกิดความมั่นใจก็คือ การมีศักยภาพทางการลงทุนที่สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ จากข้อได้เปรียบเรื่องเส้นทางขนส่ง การมีท่าเรือน้ำลึก และการย้ายฐานผลิตเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังเกิดปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี 2554 จึงทำให้มีบริษัทขนาดเล็กย้ายตามเข้ามาจนส่งผลดีด้านการค้าขายในพื้นที่

ส่วนปัญหาการขาดแคลนน้ำนั้นเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาต่อภาคอุตสาหกรรมหลังมีฝนตกลงมา เช่นเดียวกับหลายจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาคการลงทุนในภาคตะวันออก จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน

นายกฤต เผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน บสย.ยังมีโครงการที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง เช่น การสนับสนุนวงเงินสูงสุดให้แก่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ได้มากถึง 40 ล้านบาทต่อแบงก์พาณิชย์ ซึ่งผู้ประกอบการอาจขอรับวงเงินกู้จากแบงก์ต่างๆ ได้มากกว่า 1 แบงก์ ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่ บสย.ก็ยังคงให้การสนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจไม่เกิน 3 ปี ในวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยไม่ต้องใช้โฉนดที่ดิน

นอกจากนี้ ยังมีโครงการสนับสนุนสินเชื่อสำหรับกลุ่มโอทอป และวิสาหกิจชุมชน ซึ่ง บสย.จะมีวงเงินค้ำประกันให้สูงสุดถึง 3 ล้านบาทต่อราย รวมทั้งการให้ความรู้เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างเป็นระบบอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น