ศูนย์ข่าวศรีราชา - 15 หน่วยงาน จับมือบันทึกความร่วมมือในการดำเนินการภายใต้ศูนย์ปฏิบัติกาการควบคุมสถานการณ์คราบน้ำมันในทะเล และงานทำความสะอาดชายฝั่ง
วันนี้ (17 ก.ค.) นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศบาลเมืองแสนสุข เป็นประธานการบันทึกความร่วมมือในการดำเนินการภายใต้ศูนย์ปฏิบัติกาการควบคุมสถานการณ์คราบน้ำมันในทะเล และงานทำความสะอาดชายฝั่ง ร่วมกับ 15 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า มหาวิทยาลัยบูรพา สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี สำนักงานประมงจังหวัดชลบุรี สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชลบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และสถานีตำรวจภูธรแสนสุข สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองชลบุรี มูลนิธไตรคุณธรรมชลบุรี มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ท่าเรือแหลมฉบัง และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ โดยมีตัวแทนแต่ละหน่วยงานเข้าร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ
นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศบาลเมืองแสนสุข กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้เพื่อร่วมปฏิบัติการภายใต้ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์คราบน้ำมันในทะเล และงานทำความสะอาดชายฝั่งทะเล ของเทศบาลเมืองแสนสุขสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทุกฝ่ายจึงตกลงร่วมมือกันปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันจำเพาะพื้นที่ระดับท้องถิ่น เทศบาลเมืองแสนสุข ที่ได้กำหนดแนวทางในการเตรียมการป้องกันและประสานการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยปฏิบัติหลัก และหน่วยสนับสนุนการปฏิบัติ
เพื่อให้สามารถดำเนินการป้องกันและสามารถแก้ไขปัญหาผลกระทบจากน้ำมันรั่วไหลในทะเลได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้กำหนดหน้าที่ความรับชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้พร้อมต่อการปฏิบัติงานทั้งในระยะก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และภายหลังเกิดภัยได้ผ่านไปแล้ว ขอบเขตของการปฏิบัติงานครอบคลุมทั้งการขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลอันเนื่องมาจากกิจกรรมการเดินเรือ และการขนส่งทางน้ำระหว่างประเทศ และถูกพัดพาเข้าชายฝั่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลเมืองแสนสุข รวมถึงการขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเล และถูกพัดพาเข้าชายฝั่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาล
ซึ่งการไหลรั่วของน้ำมันสามารถเกิดได้ทั้งตามธรรมชาติ เช่น รั่วจากแหล่งน้ำใต้ดิน หรือจากการกระทำของมนุษย์ เช่น อุบัติเหตุจากเรือการขุดเจาะน้ำมัน หรือการลักลอบปล่อยทิ้งสู่แหล่งน้ำ การรั่วไหลส่วนมากมักมีที่มาจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะการรั่วไหลในทะเลมาจากกิจกรรมการขนส่งทางทะเล ซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จะควบคู่ไปกับความต้องการพลังงานภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น และอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้น้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลเสมอ ถึงแม้จะมีมาตรการป้องกันต่างๆ แล้วก็ตาม
ดังนั้น จึงได้จัดทำบันทึกความร่วมมือขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมการป้องกันและประสานการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยปฏิบัติหลักและหน่วย สนับสนุนภาคปฏิบัติ เพื่อให้สามารถดำเนินการป้องกันและสามารถแก้ไขปัญหาผลกระทบจากน้ำมันรั้วไหลในทะเลได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ และเพื่อกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พร้อมต่อการปฏิบัติงารน ทั้งระยะก่อนเกิดภัย และภายหลังที่ภัยได้ผ่านไปแล้ว
