xs
xsm
sm
md
lg

ทหาร-ตร.-ฝ่ายปกครองบุรีรัมย์เข้ารื้อถอนร้านค้าบุกรุกที่ นสล.มากว่า 20 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทหารกองกำลังรักษาความสงบจ.บุรีรัมย์ร่วมตำรวจ ฝ่ายปกครองและเทศบาลหนองกี่ เข้ารื้อถอนอาคารร้านค้าของนายทุนและชาวบ้านกว่า 30 ราย บุกรุกที่นสล.ยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี วันนี้ ( 14 ก.ค.)
บุรีรัมย์ - ทหารกองกำลังรักษาความสงบ จ.บุรีรัมย์ ร่วมตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเทศบาลหนองกี่ เข้ารื้อถอนอาคารร้านค้าของนายทุนและชาวบ้านกว่า 30 รายที่บุกรุกที่ นสล.ยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี เพื่อคืนพื้นที่ให้ ก.มหาดไทยตามนโยบายรัฐบาล เบื้องต้นมีชาวบ้านลงชื่อยินยอมให้รื้อแล้ว และขอผ่อนผัน

วันนี้ (14 ก.ค.) พ.ท.ประพล อาจหาญ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายยงยุทธ จรเสมอ นายอำเภอหนองกี่, พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผู้กำกับการ สภ.หนองกี่, นายประพันธ์ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ ได้นำเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหนองกี่ เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อาคาร ร้านค้า ของนายทุนและชาวบ้านกว่า 30 ราย ที่บุกรุกสร้างที่อยู่อาศัย อาคาร ร้านค้า และห้องแถวรวมกว่า 40 ห้องในเขตพื้นที่สาธารณประโยชน์ (นสล.) ประเภทใช้ประโยชน์ร่วมกัน เนื้อที่เกือบ 2 ไร่ ที่อยู่ในเขตเทศบาลตำบลหนองกี่ เป็นเวลานานกว่า 20 ปี

ถึงแม้ที่ผ่านมาทางเทศบาลฯ และอำเภอ ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวจะติดประกาศชี้แจงให้ผู้บุกรุกทราบแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2547 ปี 2550 และปี 2558 แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวกลับไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ที่บุกรุก เจ้าหน้าที่จึงได้ออกคำสั่งบังคับใช้เทศบัญญัติควบคุมอาคารเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินที่บุกรุก เพื่อคืนพื้นที่ดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ เทศบาลฯ ได้มีการตั้งโต๊ะให้ชาวบ้านหรือผู้บุกรุกมาลงชื่อเพื่อยินยอมให้รื้อถอนและลงชื่อขอผ่อนผันยืดระยะเวลาการรื้อถอนออกไปได้ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน ซึ่งเบื้องต้นมีชาวบ้านมาลงชื่อยินยอมให้รื้อถอน 4 ราย 7 ห้อง และขอยืดระยะเวลาการรื้อถอน 11 ราย 15 ห้อง แต่มีบางรายที่ยังคัดค้านไม่ให้รื้อถอนพร้อมได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายอำเภอด้วย

นายประพันธ์ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ นสล.เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ได้มีนายทุนและชาวบ้านบางกลุ่มเข้าไปบุกรุกสร้างที่อยู่อาศัย อาคาร ร้านค้า และห้องแถว ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางเทศบาลฯ ก็ได้ติดประกาศแจ้งให้ผู้บุกรุกได้รับทราบแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ทางเทศบาลฯ จึงได้ร่วมกับอำเภอ ทหาร ตำรวจ เข้ารื้อถอนในครั้งนี้เพื่อคืนพื้นที่ให้กระทรวงมหาดไทย หากหน่วยงานหรือกลุ่มบุคคลใดต้องการจะใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวก็ให้ทำเรื่องขออนุญาตกระทรวงมหาดไทยตามขั้นตอน

ด้าน นางดวงดาว ศรีลากูล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.6 บ.น้อย ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ แม่ค้าขายไก่ย่างรายหนึ่ง บอกว่า ได้เปิดขายไก่ย่างอยู่ห้องที่บริเวณดังกล่าวมาตั้งแต่สมัยพ่อแม่เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งเดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่รกร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ทางอำเภอตั้งแต่สมัยนั้นต้องการให้เกิดความเจริญ จึงได้ให้ชาวบ้านไปจับจองพื้นที่ทำการค้าขาย จึงได้พากันไปจับจองทั้งอยู่อาศัยและค้าขาย

จึงยืนยันว่าไม่ได้บุกรุกเพราะได้จ่ายค่าเช่ามาโดยตลอด แต่เมื่อทางราชการแจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่หลวง หรือที่ นสล. ชาวบ้านก็ไม่มีสิทธิ์จะคัดค้านอะไร ต้องยอมให้รื้อถอนเพื่อคืนที่ดินให้แก่หลวง แต่อยากร้องขอให้ทางภาครัฐเห็นใจจัดหาที่รองรับให้ได้ทำการค้าขายแทนที่เดิมด้วย เพราะตอนนี้ยังไม่รู้จะไปค้าขายตรงไหนแต่เบื้องต้นก็ได้ไปลงชื่อขอผ่อนผันไว้แล้ว

ทางด้าน นางสุทธิชา สุริยะธนาภาส อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.9 ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ แม่ค้าขายเครื่องเขียนที่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการรื้อถอน บอกว่า ตนได้ใช้พื้นที่ห้องแถวดังกล่าวในการเก็บสินค้าจำพวกอุปกรณ์เครื่องเขียน และนมโรงเรียนมานานกว่า 15 ปีแล้ว เมื่อทางราชการขอพื้นที่ดังกล่าวคืนก็พร้อมคืนให้และไม่ขอเรียกร้องความช่วยเหลืออะไรจากรัฐ เพราะที่ผ่านมาได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวมานานแล้ว





กำลังโหลดความคิดเห็น