อุดรธานี - พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับสำนักปฏิบัติธรรมดงเหล่าคำ ลงพื้นที่มอบสื่อการเรียนการสอนให้นักเรียนโรงเรียนบ้านแมด ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี เหตุโรงเรียนในพื้นที่ขาดแคลน มุ่งพัฒนาเด็กให้มีความพร้อมเป็นกำลังของชาติในการพัฒนาประเทศ
วันนี้ (13 ก.ค.) พระอาจารย์พรมลิขิต ปิยะสีโร เจ้าสำนักสงฆ์ดงเหล่าคำ บ.แมด ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี พร้อมคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะติดตามจำนวนหนึ่ง เดินทางเป็นประธานมอบสนามตะกร้อให้แก่โรงเรียนบ้านแมด ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีคณะครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ร่วมในกิจกรรมจำนวนมาก
พระอาจารย์พรมลิขิต ปิยะสีดร เจ้าสำนักสงฆ์ดงเหล่าคำ กล่าวว่า การมอบสื่อการเรียนการสอนครั้งนี้ สืบเนื่องจากคุณหญิงกัลยา ได้เดินทางมาจังหวัดอุดรธานี และได้เข้ามากราบนมัสการพระอาจรย์ และร่วมสนทนาธรรมกับอาตมา ซึ่งอาตมาได้บอกบุญให้แก่คุณหญิงกัลยา ว่า ในพื้นที่แถบนี้มีโรงเรียนยังขาดอุปกรณ์การเรียนการสอน และชาวบ้านบางรายก็ยังไม่มีบ้านอยู่อาศัยที่ถาวรแข็งแรง ซึ่งคุณหญิงกัลยา รับปากว่าจะมาช่วยทำบุญช่วยเหลือตามที่อาตมาได้บอกบุญไป จึงมีวันนี้ขึ้น
สำหรับการช่วยเหลือครั้งนี้ สำนักสงฆ์ ได้ร่วมกับคุณหญิงกัลยา มอบสนามตระก้อ 1 สนาม ราคา 26,000 บาท เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 ชุด ราคา 15,000 บาท อุปกรณ์การกีฬาจำนวนหนึ่ง และสร้างบ้านให้แก่ นางสุวรรณ พึ่งโคกสูง อายุ 59 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน และพิการเดินไม่ได้ ในราคา 50,000 บาท โดยไม่ได้พึ่งงบประมาณของทางราชการ เพื่อให้ใช้ประโยชน์แก่เด็กนักเรียน และเยาวชนในหมู่บ้าน และใกล้เคียง
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากทางพรรคในฐานะของรองหัวหน้าพรรค ให้ดูแลรับผิดชอบในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด ซึ่งนักการเมืองไม่มีวันหยุด ไม่มีปิดเทอม ตนเดินทางลงพื้นที่ภาคอีสานทุกสัปดาห์เป็นเรื่องปกติ เพราะตนเป็นคนอีสาน มีบ้านอยู่ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
สำหรับการมอบสนาม และอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนให้แก่โรงเรียนบ้านแมด ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กนั้น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่ทุกฝ่ายรวมทั้งประชาชนในท้องถิ่นต้องร่วมมือร่วมใจช่วยพัฒนาสถานศึกษา และเด็กในพื้นที่ให้พัฒนา และมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งร่างกาย และจิดใจ เพื่อเด็กเยาวชนจะได้เป็นกำลังของชาติ
“ปัจจุบันนี้การศึกษาไม่จำเป็นจะต้องมีอยู่เฉพาะในห้องเรียน ภายนอกห้องเรียนก็ส่ามารถจัดการศึกษาได้ โดยเฉพาะในชุมชนที่สมควรที่จะสร้างการเรียน การสอน ให้แก่เด็ก และเยาวชนได้ ด้วยภูมิปัญญาชุมชน เพราะเด็กเยาวชนจะได้เรียนรู้ถึงความเป็นมาของชุมชนที่ตนเองอยู่ที่แตกต่างจากความรู้ในห้องเรียน” คุณหญิงกัลยา กล่าว