เชียงราย - ชาวนากว่า 200 คนรวมตัวปิดด่านพรมแดนแม่สาย-พม่า เพื่อประท้วงฝั่งพม่านำรถแบ็กโฮ 3 คันรื้อฝายกั้นลำน้ำสาย ประธานทีบีซีฝ่ายไทยเร่งประสานเพื่อคลี่คลายปัญหา สุดท้ายพม่ายอมยุติการรื้อฝายทั้งหมดจนชาวบ้านพอใจและสลายตัว ทำให้ด่านพรมแดนเปิดทำการปกติ
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า เช้าวันนี้ (13 ก.ค.) มีกลุ่มชาวบ้านหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะจากหมู่บ้านเวียงหอม ม.4 และบ้านป่าซางวาม ม.6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ประมาณ 200 คน นำโดยนายชาติชาย แก้วดุลดุก ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำ ต.แม่สาย และ ต.เกาะช้าง ได้พากันไปชุมนุมประท้วงบริเวณหน้าด่านพรมแดน จุดผ่านแดนถาวรไทย-พม่า ตรงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 โดยมีการใช้มวลชนจำนวนมากทำการปิดถนนและประตูด่านพรมแดนในฝั่งไทย เพื่อกั้นไม่ให้ยานพาหนะและผู้คนที่เดินทางผ่านเข้าออกระหว่างประเทศสามารถเดินทางผ่านไปมาได้
ทำให้สถานการณ์บริเวณหน้าด่านพรมแดนในช่วงเช้าเกิดความวุ่นวายขึ้นเพราะไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะมีกลุ่มมวลชนจำนวนมากไปปิดด่านพรมแดน โดยเฉพาะชาวบ้านในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งกำลังจะข้ามมาซื้อสินค้าและทำงานในฝั่งไทย โดยต้องไปจอดรถรวมทั้งยืนรอกันเต็มหน้าด่านพรมแดนด้วยความสงสัย ขณะที่ในฝั่งไทยก็เกิดการจราจรติดขัด ประชาชนส่วนใหญ่รอดูสถานการณ์เช่นกัน
โดยการชุมนุมของกลุ่มผู้ใช้น้ำทั้ง 2 ตำบลดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากช่วงเช้าวันเดียวกันได้มีรถแบ็กโฮของทางการพม่าจำนวน 3 คัน แยกกันไปขุดตักฝายกั้นลำน้ำสายจำนวน 2 แห่ง คือ ท่ากระหล่ำหรือท่ากำนันแดง พื้นที่บ้านเวียงหอม จำนวน 2 คัน และท่าเหมืองงาม พื้นที่บ้านป่าซาง อีก 1 คัน โดยฝายดังกล่าวใช้กั้นลำน้ำเพื่อทดน้ำเข้าสู่พื้นที่ทางการเกษตร
จากนั้นรถได้ทำการขุดตักดินที่กั้นฝายออกทำให้ไม่สามารถใช้ทดน้ำได้อีกต่อไป ส่งผลทำให้ชาวบ้านทั้ง 2 ตำบลไม่พอใจและพากันรวมตัวไปปิดประตูด่านพรมแดนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มชาวบ้านได้ชูป้ายมีข้อความหลากหลาย เช่น น้ำไม่มีชาวนาจะเอาอะไรกิน เอาฝายคืนให้ชาวนา เปิดฝาย เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่ด่านพรมแดนต้องเร่งเข้าเจรจากับชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ขณะที่ชาวนาได้มีการใช้เครื่องกระจายเสียงเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างไทยกับพม่าเพื่อคืนฝายไม่เช่นนั้นจะไม่สลายตัว
นายชาติชายกล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาปลูกข้าว และปัจจุบันข้าวอยู่ในช่วงที่ต้องการน้ำเพื่อการเจริญเติบโต แต่เมื่อไม่มีน้ำก็เสี่ยงต่อความเสียหายจนอาจส่งผลกระทบไปถึงการยังชีพและหาเลี้ยงครอบครัว โดยเฉพาะถ้าไม่มีข้าวพวกเราก็ไม่สามารถส่งลูกหลานเรียนหนังสือได้ ดังนั้น การที่ต้องออกมาที่ด่านพรมแดนกันในครั้งนี้ต้องขออภัยผู้ใช้รถใช้ถนนและด่านพรมแดนด้วยเพราะไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เดือดร้อนแต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็คงไม่เป็นผล
ต่อมา นายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารและตำรวจพยายามเข้าไปเจรจากับชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าจะต้องให้ได้ฝายกลับคืนมาไม่เช่นนั้นจะไม่สลายตัว ด้าน พ.อ.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานไทย-พม่า ระดับท้องถิ่นฝ่ายไทย หรือทีบีซีฝ่ายไทย ได้ประสานไปยังทีบีซีฝ่ายพม่าเพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งในช่วงที่มีการเจรจาทางเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ได้แจ้งให้ผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณหน้าด่านพรมแดนให้ถอยกลับประเทศพม่าทำให้สถานการณ์ตึงเครียด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเจรจาของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายมีรายงานว่าฝ่ายพม่าจะยุติการขุดตักฝายดังกล่าวแล้ว ทำให้กลุ่มชาวบ้านพอใจและสลายตัวหลังจากปิดด่านมาร่วม 3-4 ชั่วโมง ทำให้สถานการณ์คลี่คลายและการสัญจรผ่านไปมาเป็นไปตามปกติ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมทีบีซีที่ผ่านมาทั้งฝ่ายไทยและพม่าเคยหารือปัญหาการรุกล้ำลำน้ำสายและลำน้ำรวกซึ่งเป็นลำน้ำที่ต่อเนื่องกันผ่าน อ.แม่สาย อ.เชียงแสน ของไทยกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน โดยหลายครั้งมีการประท้วงกันว่าอีกฝ่ายรุกล้ำ
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมสานมุนอาข่า จ.ท่าขี้เหล็ก ทางฝ่ายพม่าแจ้งว่าที่ท่ากำนันแดงและท่าหัวฝายตรงข้ามบ้านสันทรายลื้อ จ.ท่าขี้เหล็ก มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำไหล ฝ่ายไทยประท้วงว่าได้ตรวจพบว่าทางฝั่งพม่าก็มีการถมดินสร้างรั้วกำแพงรุกลำน้ำสายบริเวณบ้านเหมืองแดงใต้ ต.แม่สาย อ.แม่สาย และมีการนำรถแบ็กโฮไปปรับขอบตลิ่งและนำหินไปวางริมฝั่งลำน้ำรวกบริเวณท่าข้ามเวียงแก้ว บ้านเวียงแก้ว ต.เวียง อ.เชียงแสน กระทั่งมีเหตุการณ์ฝ่ายพม่านำรถแบ็กโฮไปดำเนินการจนชาวบ้านฝั่งไทยประท้วงด้วยการปิดด่านดังกล่าว