เชียงราย - ตลาดชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ซบเซายาวร่วมครึ่งปี นักท่องเที่ยวหายไปกว่า 70-80% จากยอดเรือนหมื่นเหลือคนเที่ยวหลักพัน โรงแรมที่พักเคยมีลูกค้าเกือบเต็ม ล่าสุดมีคนพัก 10-15 ห้องต่อวัน แม่ค้าพ่อค้าลดราคาสินค้าแล้วยังเอาไม่อยู่ ต้องเลิกเช่าร้านจนห้องว่างบาน
วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตลาดชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แหล่งท่องเที่ยวที่เคยคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาเที่ยวจับจ่ายซื้อสินค้าชายแดนราคาถูกหลากชนิดมาตลอด ในระยะนี้กลับเงียบเหงาไปถนัดตา แม้แต่ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ล่าสุดก็มีคนเดินทางมาเที่ยวประปราย หลายร้านถึงกับขึ้นป้ายห้องว่างให้เช่าแทนแล้ว
ขณะเดียวกันยังมีกระแสข่าวจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็กว่า ทางการพม่ามีนโยบายให้โรงแรมต่างๆ ที่มีกาสิโนหรือห้องเกมให้ปรับพื้นที่สำหรับเด็ก และเยาวชน รวมทั้งเพิ่มพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว แทนการมุ่งเปิดห้องพัก-กาสิโน รวมทั้งมีเรื่องปิดโรงแรมที่เป็นที่ตั้งของกาสิโนบางแห่งในเขต จ.ท่าขี้เหล็ก เพราะเกิดปัญหาเรื่องค่าเช่าด้วย ทำให้บรรยากาศฝั่งประเทศพม่าซบเซาตามกันไป
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา ประธานหอการค้า อ.แม่สาย และประธานสมาคมวัฒนธรรมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-พม่า สาขา จ.เชียราย กล่าวว่า ยอมรับว่าช่วงนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจขาลง เป็นช่วงโลว์ซีซัน ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว ย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยพบว่าปริมาณนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 70-80% เมื่อเทียบกับฤดูท่องเที่ยว ซึ่งเคยมีวันละ 10,000-20,000 คน ก็ลดลงเหลือบางตาวันละ 3,000-4,000 คน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าสภาพเช่นนี้เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 แล้ว
ด้านนางบุศรินทร์ อินทรชัย อายุ 43 ปี ผู้จัดการโรงแรมปิยะพรเพลส เลขที่ 77/1 ม.1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย กล่าวว่า โรงแรมของเรามีอยู่ 78 ห้อง ปกติจะมีผู้เข้าพัก และยอดจองไม่ต่ำกว่า 50-60 ห้อง แต่หลายเดือนที่ผ่านมายอดลดลง จนตอนนี้มีคนเข้าพักเพียง 10-15 ห้องต่อวันเท่านั้น
นางบุศรินทร์มองว่า สาเหตุที่ทำให้การท่องเที่ยวชายแดนแม่สายซบเซาลงมาจาก 3 เรื่องหลัก คือ ความกังวลต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 5 พ.ค. 2557, เหตุการณ์น้ำท่วม และการเผยแพร่ทางสื่อสาธารณะหรือโซเชียลมีเดียว่าจะมีการจับนักท่องเที่ยวชายแดนไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ซึ่งสิ่งเหล่านี้หลายเรื่องไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความกลัว
ด้านนางหลี จู อายุ 35 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายกระเป๋าและรองเท้าที่ตลาดสายลมจอย กล่าวว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ซบเซาทำให้ยอดขายของร้านตกไปมาก จนต้องลดราคาสินค้าลงกว่า 20-30% หรือเกือบจะเท่าทุนแล้ว บางวันยังต้องขาดทุนวันละ 2,000 บาท เพราะพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ต้องเช่าร้าน หลายเจ้าก็ลดการเช่าลงจากเดิมอาจจะมี 10 ร้าน ก็ลดลงเหลือ 5 ร้าน ห้องที่เหลือจึงไม่มีคนเช่า
“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปก็อาจต้องหยุดขายเพื่อเก็บทุนไว้รอสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นก่อนค่อยว่ากันอีกที”