xs
xsm
sm
md
lg

ทีบีซีแม่สาย-ท่าขี้เหล็กถกกันหนัก พม่ายันไม่มีรบว้า ชี้หัวโจกโกกั้งหลบเข้าไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - คณะกรรมการทีบีซีระดับท้องถิ่นแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เปิดเวทีประชุมครั้งที่ 83 ถกสารพัดปัญหา ทั้งประเด็นรุกลำน้ำสาย-ดอยลาง ขณะที่พม่ายันชายแดนสงบไม่มีรบว้า จี้ไทยจัดการหัวโจก “โกกั้ง” หนีเข้าแม่สาย พบนักเรียนพม่า-ผู้เกี่ยวข้องข้ามฝั่งเรียนไทย บางส่วนไม่กลับบ้าน ส่อถูกล่อลวงเป็นเหยื่อค้ามนุษย์

วันนี้ (30 มิ.ย.) พ.อ.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3 และ พ.ต.อ่องติ่นอู ผบ.กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 526 กองทัพพม่า ได้เป็นประธานร่วมเปิดการประชุมคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่าระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ครั้งที่ 83 ที่โรงแรมสานมุนอาข่า จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โดยทางทีบีซีพม่าแจ้งต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้ไม่มีการสู้รบระหว่างทหารพม่า กับกองกำลังต่างๆ ใกล้ชายแดนไทย กระแสข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น

จากนั้นทีบีซีทั้งสองฝ่ายต่างยื่นข้อหารือ และข้อประท้วงเกี่ยวกับการก่อสร้าง ขุดลอก และอื่นๆ จนส่งผลกระทบต่อลำน้ำสาย ซึ่งเป็นเส้นแบ่งพรมแดน เช่น ทางพม่าอ้างว่ามีการขนหินสร้างพนังกั้นตลิ่ง ดูดทรายตลอดแนวลำน้ำสาย โดยเฉพาะบริเวณบ้านเวียงหอม ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย และมีการสร้างท่อระบายน้ำบ้านดอยต่อคำ ทำให้ที่นาเสียหาย

ด้านฝ่ายไทยก็แจ้งต่อที่ประชุมว่า พบการก่อสร้าง ขุดร่องน้ำ ถมดิน และรุกลำน้ำสาย หลายจุดเช่นกัน เช่น ที่ท่ากะหล่ำตรงข้ามบ้านเหมืองแดงใต้ บ้านเหมืองแดง ต.แม่สาย บ้านแม่สาย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จึงขอให้ทางการพม่าหยุดดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงเรื่องพรมแดนที่มีลำน้ำสาย-ลำน้ำรวก เป็นเส้นเขตแดน พร้อมกับสอบถามความคืบหน้ากรณีฝ่ายไทยขอเปิดจุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตรงข้ามเมืองต่วน จ.เมืองสาด ของพม่า

นอกจากนี้ทางฝ่ายพม่ายังด้วยแจ้งว่า ขณะนี้หน่วยเหนือเห็นชอบให้ขุดลอกลำน้ำสาย ระยะทาง 15 กิโลเมตร และการติดตั้งเครื่องเตือนน้ำท่วม 3 จุดแล้ว จึงขอทราบความคืบหน้าก่อนฤดูฝนจะมาถึง พร้อมกับระบุว่าทหารไทยตั้งฐาน 29 ฐาน บริเวณพื้นที่ดอยลาง จ.เชียงใหม่ ขอให้ย้ายออกไป

ขณะที่กรรมการทีบีซีฝ่ายไทยแจ้งว่า ปัจจุบันมีกองกำลังเชื้อสายว้าได้ตั้งฐาน 7 ฐาน บนชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.เชียงใหม่ จึงขอให้ย้ายออกห่างจากชายแดน

ที่ประชุมยังได้หยิบยกเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ ที่สืบสวนแล้วพบผู้ต้องหาหลบหนีข้ามชายแดนไป เพื่อขอความร่วมมือในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เช่น เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา นายประเทือง เมืองคำ อายุ 53 ปี คนไทยไปรับงานก่อสร้างที่บ้านสันทราย จ.ท่าขี้เหล็ก แต่ถูกทำร้ายและยิงจนเสียชีวิตในฝั่งพม่า วันที่ 17 เม.ย. มีตำรวจไทยถูกกลุ่มค้ายาเสพติดยิงเสียชีวิตที่บ้านจะจ่อ ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย ผู้ต้องสงสัยชื่อนายจะลอติ พาก่า อายุ 18 ปี นายยาสิ พาก่อ อายุ 22 ปี หลบหนีไปทางช่องแม่โจ๊ก ตรงข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เข้าไปอยู่ในเขตพม่า จึงขอให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีด้วย

ขณะที่ฝ่ายพม่าแจ้งว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ประเทศไทยตรวจจับกุมผู้ต้องหาคนไทยและพม่า พร้อมยาเสพติด 2.306 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 14.8 กิโลกรัม จึงขอทราบผลการสอบสวนเพื่อจะนำไปขยายผล วันที่ 22 เม.ย. ฝ่ายพม่าจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก อ้างว่าซื้อมาจากชาวไทยที่ อ.เชียงแสน วันที่ 30 ส.ค. 2557 มีชาวพม่าบ้านมะก๋าหัวคำ จ.ท่าขี้เหล็ก ถูกทุบตีเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่พม่า สอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายอาศัยอยู่ จ.เชียงใหม่ จึงขอหารือเพื่อติดตามหาตัวคนร้าย

และที่ผ่านมาได้มีการสู้รบระหว่างเจ้าหน้าที่พม่ากับกองกำลังโกกั้ง ที่เมืองเล่าไก่ ชายแดนพม่า-จีน ปรากฏว่านายฟงจาซิน และคนสนิทชื่อโกตาจง แกนนำโกกั้งได้หลบหนีเข้ามาทาง อ.แม่สาย และทำธุรกิจนอกระบบ หาทุนจากต่างประเทศเพื่อส่งผ่านแม่น้ำโขงไปให้กองกำลังโกกั้ง จึงขอความร่วมมือฝ่ายไทยติดตามจับกุมเช่นกัน

ทั้งนี้ ทีบีซีแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ครั้งที่ 83 ยังได้หารือกันถึงปัญหาการเดินทางข้ามแดนระหว่างกันด้วย โดยทางฝ่ายพม่าระบุว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2540 รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายได้มีบันทึกร่วมกันให้ชาวพม่าใช้หนังสือผ่านแดนหรือบอเดอร์พาสเดินทางเข้าถึง จ.เชียงใหม่ และให้คนไทยเดินทางไปถึงเมืองเชียงตุงได้ แต่จนถึงขณะนี้ชาวพม่ายังต้องใช้หนังสือเดินทางระหว่างประเทศและวีซ่าเพื่อเดินทางไปเชียงใหม่อยู่

ขณะที่ฝ่ายไทยแจ้งว่า พบเด็กนักเรียนชาวพม่านั่งรถตู้ในฝั่งไทย 23 คัน ฝั่งพม่า 6 คัน และรถผู้ปกครองมาส่งเรียนหนังสือในเขต อ.แม่สาย ร่วม 300 คน รวมผู้เกี่ยวข้องเป็นประมาณ 1,100 คน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไทยอำนวยความสะดวกให้เข้ามาแล้ว บางส่วนก็ไม่เดินทางกลับพม่า และปรากฏข่าวสารว่าอาจถูกล่อลวง และเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จึงขอความร่วมมือให้มีการเข้มงวดร่วมกันด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น