กาญจนบุรี - ผบก.กาญจนบุรี แถลงรวบสองสามี-ภรรยาโหด โทรศัพท์ลวงหนุ่มพิการวัย 19 ปี ลูกชาย ส.อบต.ฆ่าถ่วงน้ำ สารภาพแค้นที่ถูกด่าถึงบุพการี หลังก่อเหตุฉกทรัพย์อำพรางคดี สุดท้ายไม่รอดเพราะตั๋วจำนำ หลังแถลงข่าวตำรวจคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ความคืบหน้ากรณี นายสุรศักดิ์ ก๋งพิ้ว อายุ 19 ปี อยู่หมู่ 16 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ชายพิการขาลีบทั้ง 2 ข้าง ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ก้อนหินทุบศีรษะจนเสียชีวิตแล้วโยนศพทิ้งลงน้ำภายในบ่อปูนกว้าง 5 คูณ 5 เมตร พบกระเป๋าสะพายหนังสีขาวตกอยู่ข้างบ่อน้ำ ภายในมีโทรศัพท์ 3 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ดัดแปลงเป็นพ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีดำหมายเลขทะเบียน ขคข 604 กาญจนบุรี ของผู้ตายจอดอยู่ ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น และแหวนทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 2 วง หายไป เหตุเกิดภายในสวนป่าร้างพื้นที่ หมู่ 16 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา
ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (11 ก.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เลี้ยงชีพ ผกก.สภ.สำรอง พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.บุรินทร์ สมจิตต์ รอง ผกก.ป.สภ.สำรอง พ.ต.ท.สหชัย พูลขวัญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.สำรอง พ.ต.ท.ธวัฒ ลิ้นจี่ สวป.สภ.สำรอง ร.ต.ท.สุรัตน์ ว่องมหาชัยกุล รอง สวป.สภ.สำรอง พร้อมกำลัง
คุมตัว นายจิรากร หรือกอล์ฟ คงสุวรรณ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 1 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และ น.ส.อทิติยา หรือไกด์ ว่องเกษฎา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 4 ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน มาแถลงข่าว สองสามีภรรยาผู้ต้องหาคดีร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือร่วมกันรับของโจร มาแถลงข่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี
พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี แถลงว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมกันรับผิดชอบคดีได้ออกสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 24 วัน ในที่สุดประมาณ 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบที่สถานธนานุบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอท่าม่วง เพื่อขอข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการนำทองมาจำนำ โดยขอข้อมูลย้อนหลังไปตั้งแต่วันเกิดเหตุคือ วันที่ 16 มิ.ย.
ในที่สุดก็พบว่า เวลาประมาณ 13.30 น.ของวันที่ 16 มิ.ย.ผู้ต้องหาคือ น.ส.อทิติยา หรือไกด์ ว่องเกษฎา เป็นคนนำเอาสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น จากสภาพของสร้อยคอที่นำมาจำนำพบว่าไม่มีตะขอ และแหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 2 วง มาจำนำเอาไว้ทั้งหมดในราคา 11,000 บาท ซึ่งทางสถานธนานุบาล ได้เขียนระบุชื่อ ที่อยู่ และเลข 13 หลักของบัตรประชาชน รวมทั้งถ่ายเอกสารบัตรประชาชนเอาไว้อย่างชัดเจน
โดยขณะที่นำทองมาจำนำพบว่า มีผู้ชายเดินทางมาด้วย 1 คน เมื่อได้หลักฐานเป็นที่แน่ชัด เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนในเชิงลึกต่อไปเพื่อหาตัวผู้ร่วมลงมือก่อเหตุ เพราะเจ้าหน้าที่เชื่อว่าลำพังตัว น.ส.อทิติยา คงไม่ได้ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็สืบทราบว่า น.ส.อทิติยา มีสามีชื่อนายจิรากร หรือกอล์ฟ ที่รู้จักกับ นายสุรศักดิ์ ก๋งพิ้ว ผู้เสียชีวิตเป็นอย่างดี
หลังจากเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานแล้วเสร็จจึงไปขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา และนำกำลังไปที่บ้านพักของของผู้ต้องหา หลังพบทั้งสอง เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.สำรอง ทันที ผลการสอบสวน นายจิรากร หรือกอล์ฟ และ น.ส.อทิติยา หรือไกด์ สองสามีภรรยาให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุฆ่านายสุรศักดิ์ จริง
พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี แถลงต่อว่า สองสามีภรรยาให้การยอมรับสารภาพอีกว่า การก่อเหตุครั้งนี้ไม่ได้หวังที่จะเอาทรัพย์สินของผู้ตาย ส่วนสาเหตุนั้นมาจากความแค้นส่วนตัว เนื่องจากนายสุรศักดิ์ มักด่าทอสองสามีภรรยาด้วยคำหยาบคาย อีกทั้งยังด่าไปถึงบุพการี ด้วยความแค้น ทั้งสองจึงได้วางแผนให้ น.ส.อทิติยา ภรรยาโทรศัพท์ไปหานายสุรศักดิ์ ให้ขับรถซาเล้งพ่วงข้างมาเอาท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ โดยนัดให้มาเอาที่บริเวณจุดเกิดเหตุ
เมื่อ นายสุรศักดิ์ หลงเชื่อจึงขับขี่รถพ่วงข้างมาหาทั้งสองที่บ่อน้ำที่อยู่ภายในสวนป่า ซึ่งทั้งสองรออยู่แล้ว เมื่อมาถึงนายสุรศักดิ์ ได้ถามว่าท่อไอเสียอยู่ไหน ทั้งสองจึงตอบไปว่าไม่มี จึงถูกนายสุรศักดิ์ ด่าทอด้วยคำหยาบคายอีก ด้วยความโมโหเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นายจิรากร หรือกอล์ฟ จึงใช้มือคว้าสายกระเป๋าสะพายโทรศัพท์ที่แขวนอยู่ที่ของนายสุรศักดิ์ แล้วดึงรัดคออย่างรุนแรง จนหายใจไม่ออก แต่ยังไม่เสียชีวิต ระหว่างนั้น นายจิรากร ได้ถอดเอาแหวนทอง 2 วง ออกจากนิ้ว และดึงสร้อยขอทองคำออกจากคอ จนตะขอหลุด แล้วส่งทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ภรรยาเก็บไว้ จากนั้นจึงปล่อยเชือกออกจากคอ นายสุรศักดิ์
หลังจากนั้น นายสุรศักดิ์ บอกว่ามีเงินสดอยู่ในตัวอีก 3 พันบาท ให้หยิบเอาไปได้เลย แต่ขอร้องว่าอย่าได้ทำร้ายอีกเลย แต่คำพูดขอร้องของ นายสุรศักดิ์ ก็ยังต่อท้ายด้วยคำหยาบคายหลายครั้ง จึงเกิดความโมโหขึ้นมาอีก จึงอุ้มตัวนายสุรศักดิ์ ที่พิการขาลีบโยนลงไปในบ่อน้ำ ทำให้นายสุรศักดิ์ กระเสือกกระสนเอาตัวรอด พร้อมตะโกนด่าไปถึงบุพการี ด้วยความโมโหจึงหยิบก้อนอิฐขว้างใส่ศรีษะของนายสุรศักดิ์ ไป 3 ครั้ง จนแน่นิ่ง และร่างจมลงไปในบ่อน้ำ สองสามีรอดูสถานการณ์ประมาณ 3 นาที จนมั่นใจว่า นายสุรศักดิ์ เสียชีวิตแล้ว จึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป พร้อมกับทรัพย์สินของนายสุรศักดิ์ จากนั้นได้นำไปจำนำที่สถานธนานุบาล ในพื้นที่อำเภอท่าม่วง ส่วนซิมโทรศัพท์ที่ใช้โทรหลอกนายสุรศักดิ์ ให้มาหาทั้งสองได้ทำลายทิ้งไป แต่ในที่สุดก็มาถูกจับกุมตัวได้
ด้าน นายสมาน ก๋งพิ้ว อายุ 58 ปี ส.อบต.หนองตากยา พ่อของผู้ตาย และญาติประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาดูการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย ซึ่งขณะแถลงข่าวทุกคนต่างตะโกนร้องสาปแช่งผู้ต้องหาไปต่างๆ นานา แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่เกรงว่าญาติของผู้ตายอาจจะเกิดอารมณ์ร้อนวิ่งกรูเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหา จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วย นปพ.มาขวางกั้นเอาไว้ ทำให้การแถลงข่าวดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย
จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งนี้ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้นำดอกไม้มามอบให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความขอบคุณที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จากนั้นทุกคนจึงเดินทางกลับ