ศูนย์ข่าวศรีราชา - ระทึก! เรือสปีดโบตบรรทุกนักท่องเที่ยวไทย-เทศนับ 10 ชีวิต หวิดจมทะเลพัทยา หลังออกจากฝั่งไปไม่ไกลน้ำเกิดเข้าเรือทำท่าจะจม ต้องขอความช่วยเหลือวุ่น หวิดเกิดโศกนาฏกรรม
วันนี้ (10 ก.ค.) ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ได้รับแจ้งมีเรือสปีดโบตรับ-ส่งนักท่องเที่ยวกำลังจะจมน้ำทะเล เหตุเกิดห่างจากฝั่งพัทยาไปทางเกาะล้านประมาณ 1 ไมล์ทะเล หลังรับแจ้งจึงนำเรือสปีดโบต พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเรือสปีดโบต ขนาด 1 เครื่องยนต์ ชื่อ “โชคชารี 2” หมายเลขข้างเรือ 360 ลอยลำอยู่ในทะเล สภาพมีน้ำทะลักเข้าบริเวณท้ายเรืออย่างรวดเร็ว และกำลังจะจม เรือสปีดโบตของผู้ประกอบการรายอื่นที่ขับผ่านมาจึงช่วยเปลี่ยนถ่ายนักท่องเที่ยวไทย และต่างชาติ ทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่รวม 10 คน มาขึ้นเรืออีกลำ และลากเรือที่ประสบเหตุไปขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เบื้องต้น ทุกคนปลอดภัยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบบริเวณท้ายเรือด้านขวาพบมีร่องรอยไม้ปริแตกเล็กน้อย
นายสมร ศรีประเสริฐ อายุ 42 ปี อาชีพรับราชการ ชาว จ.สระบุรี หนึ่งในผู้โดยสาร กล่าวถึงเหตุการณ์ระทึกให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนกับครอบครัวได้ขึ้นเรือสปีดโบตลำดังกล่าว ซึ่งมีนายวรวงษ์ งามแก้ว อายุ 22 ปี เป็นคนขับ ที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะล้าน โดยมีครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกกลุ่มหนึ่งโดยสารมาด้วย
ขณะเรือแล่นออกจากฝั่งไปได้ไม่นาน จู่ๆ มีน้ำทะเลทะลักเข้าด้านท้ายเรืออย่างรวดเร็ว จนทำให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะผู้หญิง และเด็กต่างพากันตื่นตระหนกตกใจ แต่เดชะบุญระหว่างนั้นมีเรือสปีดโบตของผู้ประกอบการรายอื่นขับผ่านมาพอดี จึงเรียกเพื่อช่วยเหลือนำขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย
นายสมร กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากรอยแตกบริเวณท้ายเรือ จึงทำให้น้ำทะเลทะลักเข้าไปในตัวเรือจนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ซึ่งกรณีนี้คนขับน่าจะรู้ดีแต่ก็ยังฝืนขับเรือพาไปเกาะล้าน เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่พอกระแทกเข้ากับคลื่นเลยทำให้เรือปริแตกเพิ่มมากขึ้น และน้ำทะลักเข้าไปอย่างรวดเร็วจนนักท่องเที่ยวเกือบต้องลงไปลอยคอในทะเล หรือหากโชคร้ายไปกว่านั้นอาจจะมีใครได้รับอันตรายถึงขึ้นบาดเจ็บล้มตายก็เป็นได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขัน และตรวจสอบเรือโดยสารที่ไม่มีความพร้อมให้มากกว่านี้
