ชาวนาอีสานยิ้มออก! ห่าฝนฟื้นชีพหลังตกทั้งคืน เร่งปักดำต้นข้าว

ศูนย์ข่าวภาคอีสาน - ชาวนาหลายพื้นที่ในภาคอีสานยิ้มออก หลังฝนตกตลอดคืน ต้นข้าวได้รับน้ำรอดตายจากภัยแล้ง ซ้ำฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือน ชาวนาที่หนองคายดีใจ แม้ปริมาณน้ำยังไม่พอทำนา ต้องสูบน้ำโขงเข้านาเพื่อปักดำ หวังฝนตกต่อเนื่อง ด้านชลประทานกาฬสินธุ์ระบุปริมาณฝนที่ตกลงมาจะช่วยเพิ่มระดับน้ำที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลางให้สูงขึ้น

วันนี้ (8 ก.ค.) หลังจากฝนตกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อนาข้าวของเกษตรกรทั้ง 6 อำเภอของ จ.หนองบัวลำภู ที่ก่อนหน้านี้ได้ประสบกับความแห้งแล้งมายาวนานกว่า 5 เดือน โดยจากการตรวจวัดปริมาณน้ำฝนของสถานีอุตุนิยมวิทยาหนองบัวลำภู พบมีปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่ อ.โนนสัง 30 มิลลิเมตร อ.ศรีบุญเรือง 29.5 มม. อ.สุวรรณคูหา 25 มม. อ.นาวัง 8 มม. ต่ำสุดที่ อ.เมือง 7.3 มม. และจะมีฝนตกต่อเนื่องในช่วงนี้ สร้างความดีใจแก่เกษตรกรเนื่องจากมีน้ำฝนหล่อเลี้ยงได้อีกระยะหนึ่งที่ต้นข้าวรอดตาย

นายสุพล หอมน้อย อายุ 58 ปี ชาวบ้านโนนหวาย ต.หนองภัยศูนย์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ทำนาเกือบ 20 ไร่ ทั้งปลูกไว้กินที่เหลือก็ขาย ซึ่งทุกปีไม่เคยมีแบบนี้ ปีนี้แล้งหนัก ก่อนหน้านี้ทำนาหว่านก็ตายหมดเพราะไม่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ใกล้เหมือนคนอื่น ต้องขุดสระและอาศัยน้ำในสระ ซึ่งปีนี้น้ำในสระก็แห้งเหมือนกัน ใช้ทำนาไม่ได้ และไม่คิดจะไปทำอย่างอื่นเพราะทำนามาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย

“ก็ตามข่าวมาตลอดว่าจะมีฝนตก กระทั่งวันนี้เป็นวันแรก ก่อนหน้านั้นไม่เคยตกเลย ถ้าตกแค่นี้ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี แต่ยังไงก็ต้องรอ ซึ่งหากมีน้ำเพียงพอก็จะลงมือทำนาหว่านอีกครั้ง”

ที่ จ.หนองคายเองมีฝนตกลงมาตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวันของวันนี้ (8 ก.ค.) ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 63.6 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้พื้นดินชุ่มฉ่ำบ้างเล็กน้อย แต่สำหรับชาวนาเป็นสัญญาณที่ดีในการพลิกฟื้นสภาพความแห้งแล้ง และความท้อแท้จากการทำนาในปีนี้

นางบ่อ บุตรวงศ์ อายุ 70 ปี ชาวนาบ้านบอน ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย พาครอบครัวปักดำนาในพื้นที่ 2 ไร่ ซึ่งนางบ่อบอกว่าไม่เคยเห็นฝนทิ้งช่วงนานเหมือนอย่างปีนี้ ฝนที่ตกลงมาขณะนี้ช่วยต่อลมหายใจให้ชาวนาได้ แม้ว่าปริมาณฝนยังไม่มากนัก ถ้าจะรอคอยน้ำฝนอย่างเดียวคงทำนาล่าช้าออกไปอีก จึงได้ซื้อน้ำจากโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าของหมู่บ้าน สูบน้ำโขงเข้ามาตามคลองส่งน้ำ จากเวลา 20.00-05.00 น. ชั่วโมงละ 120 บาท ส่งน้ำเข้านาเพื่อให้ได้ปักดำ หลังจากปักดำแล้วก็ต้องลุ้นขอให้ฝนตกต่อเนื่อง ไม่ทิ้งช่วงจนกว่าต้นข้าวจะตั้งตัวได้และออกรวง

อย่างไรก็ตาม ชาวนาส่วนหนึ่งที่มีที่นาอยู่ตามนาดอน ฝนไม่ตกและไม่สามารถสูบน้ำโขงไปถึงได้ ก็จำเป็นต้องปล่อยที่นาว่างเปล่า ไม่เสี่ยงทำนา แต่ก็ยังมีชาวนาบางกลุ่มลองเสี่ยงใช้วิธีหว่านข้าวดู ผลปรากฏว่านกมากินเมล็ดข้าวหมด

ขณะที่นายวิมล การกันหา อายุ 54 ปี ชาวนาบ้านทุ่งสว่าง ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ภัยแล้งคุกคามกว่า 8 เดือน ส่งผลให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ ได้รับความเดือดร้อนด้านน้ำอุปโภคบริโภค และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย วันนี้ทั่วพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์ เริ่มชุ่มฉ่ำด้วยน้ำเนื่องจากมีฝนตกลงมาตลอดคืน ทำให้มีน้ำเจิ่งนองเต็มท้องนา ซึ่งตนและสมาชิกในครอบครัวต่างดีใจที่จะได้ทำนา ได้ลุกตื่นมารับน้ำฝนตั้งแต่เช้าเพื่อลงมือถอนกล้าและปักดำด้วยความดีใจ

ด้านนายสมหมาย ดอกบัว หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการชลประทาน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาจะบรรเทาความแห้งแล้งในพื้นที่ได้ระดับหนึ่ง แต่หากตกลงมาอย่างต่อเนื่องจึงจะเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้สูงขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดความแห้งแล้งเป็นอย่างมากแทบจะไม่มีน้ำต้นทุนเหลืออยู่เลย โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจาน ต.บ่อแก้ว อ.นาคู

อย่างไรก็ตาม ก็ฝากเตือนเกษตรกรให้ติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญควรปลูกพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อย และทนต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้